matsumoto_castle_spring_1
matsumoto_castle_spring_1
  • หน้าแรก
  • บล็อกพาเที่ยว
  • เมืองแห่งปราสาทอีกาดำ: รวมสถานที่ สิ่งน่าสนใจและอาหารที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวมัตสึโมโต้ (Matsumoto) – อัพเดตปี 2023

เมืองแห่งปราสาทอีกาดำ: รวมสถานที่ สิ่งน่าสนใจและอาหารที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวมัตสึโมโต้ (Matsumoto) – อัพเดตปี 2023

เมืองมัตสึโมโต้ (Mastumoto) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อเมืองแห่งปราสาทอีกาดำ ไม่ได้มีที่เที่ยวแค่ปราสาทเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจและกิจกรรมสนุกๆให้ทำอีกหลายอย่าง ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง!

matsumoto_castle_spring_1

เที่ยวปราสาทอีกาดำ แลนด์มาร์กของเมือง

ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นจุดท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือนมัตสึโมโต้ ปราสาทอายุกว่า 400 ปีนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น เมื่อมองดูภายนอกจะเห็นว่ามีเพียง 5 ชั้น แต่ถ้าได้เข้าไปในปราสาทจะพบว่ามีชั้นลับซ่อนไว้สำหรับหลอกศัตรู ทำให้ปราสาทแห่งนี้แท้จริงแล้วมีความสูงทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกัน

แม้ว่าปราสาทแห่งนี้จะสร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรูรุกราน แต่ก็ไม่เคยได้ทำหน้าที่นี้เลย เป็นเหตุทำให้ตัวปราสาทยังคงสภาพดั้งเดิมมาจนปัจจุบัน ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เหมือนปราสาทส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น อย่างเช่น ปราสาทโอซาก้า เป็นต้น

matsumoto_castle_winter_2

เนื่องจากสีดำที่ทาอยู่ภายนอก จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรียกกันเล่นๆว่า “ปราสาทอีกาดำ”

เดินเที่ยวเล่นในหุบเขาสวย “คามิโคจิ”

นอกจากเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางวัฒนธรรม มัตสึโมโต้ก็ยังมีธรรมชาติที่งดงาม จากตัวเมืองใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็สามารถเดินทางไปคามิโคจิได้ด้วยรถไฟและรถบัสของ Alpico ถ้าใครเป็นสายเที่ยวธรรมชาติและภูเขาแล้วล่ะก็ ห้ามพลาดเลยทีเดียว!

matsumoto_kamikochi_3
สะพานคัปปะ (Kappa) สัญลักษณ์ของคามิโคจิกับเทือกเขาโฮทากะ (Hotaka) ส่วนหนึ่งของเจแปนแอลป์ด้านหลัง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับคามิโคจิ
(อัพเดตปี 2024) คู่มือแนะนำเที่ยวคามิโคจิฉบับเต็ม (เที่ยวเมื่อไหร่ เดินทางยังไง เปิดปิดเมื่อไหร่ เดินเที่ยวยังไง)

แวะเมืองออนเซ็นแช่บ่อน้ำพุร้อน

เมืองมัตสึโมโต้มีแหล่งออนเซ็นหลายแห่งที่จะช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ละที่ต่างก็มีเอกลักษณ์และบรรยากาศแตกต่างกันไป แนะนำออนเซ็นทั้ง 3 แห่ง ได้แก่

อุสึกุชิกาฮาระออนเซ็น

อุสึกุชิกาฮาระออนเซ็น (Utsukushigahara Onsen) ตั้งอยู่บนเนินเขา เห็นทั้งวิวเมืองมัตสึโมโต้และเทือกเขาเจแปนแอลป์ ออนเซ็นแห่งนนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนไปถึงยุคสมัยนารา (ค.ศ. 710 – 794) และยังปรากฏใน “นิฮนโชะกิ” หนังสือประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นด้วย จากท่ารถบัสในตัวเมืองมัตสึโมโต้ สามารถนั่งรถบัส Alpico ไปได้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที (รถบัสสาย 31)
 
matsumoto_hotel_shoho_3
ออนเซ็นขนาดใหญ่ที่เรียวกัง “อุสึกุชิกาฮาระออนเซ็นโชโฮ“ กับวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์แบบพาโนราม่า
 

อาซามะออนเซ็น

อาซามะออนเซ็น (Asama Onsen) เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านออนเซ็นใกล้ตัวเมืองมัตสึโมโต้ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายญี่ปุ่นสมัยเก่า ที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่และโรงแรมหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีโรงแช่ออนเซ็นแบบไปเช้า-เย็นกลับ ไม่ต้องพักแรมด้วย ใครที่พักในตัวเมือง จะมาเดินเที่ยวและแช่ออนเซ็นที่นี่อย่างเดียวก็ได้

 asama_onsen_hot_plaza
“Asama Hot Plaza“ โรงแช่ออนเซ็นสาธารณะเพียงแห่งเดียวในอาซามะออนเซ็น

 
asama_onsen_1-1
asama_onsen-1
 

เสาไฟ ป้ายห้างร้านต่างๆให้บรรยากาศแบบยุคโชวะที่อาซามะออนเซ็น

 

อาซามะออนเซ็นใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาทีจากท่ารถบัสมัตสึโมโต้โดยรถบัส Alpico (สาย 32) แนะนำให้ลงที่ป้าย Hot Plaza Asama ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันกับคาเฟ่ชื่อดังและโรงอาบน้ำออนเซ็น รถบัสให้บริการทุกๆ 15-60 นาทีแล้วแต่ช่วงเวลาของวัน

ชิราโฮเนะออนเซ็น

ชิราโฮเนะออนเซ็น (Shirahone Onsen) อยู่ห่างจากตัวเมืองระหว่างทางไปคามิโคจิ เป็นหมู่บ้านออนเซ็นเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบ น้ำพุร้อนที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นสีขุ่นออกขาวออกฟ้า ทำให้เป็นที่มาของชื่อออนเซ็นที่แปลตรงตัวได้ว่า “บ่อน้ำพุร้อนกระดูกขาว”


shirahone-onsen

“Awano no Yu” เรียวกังที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในหมู่บ้านชิราโฮเนะออนเซ็น กับบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่แช่รวมชายหญิง
 

บ่อน้ำพุร้อนสาธารณะ

เวลาให้บริการ: วันธรรมดา 10:00-16:00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 09:00-17:00 น.
ปิดทำการ: ทุกวันพุธ

 

matsumoto_shirahonsen_4 matsumoto_shirahonsen_3

บ่อน้ำพุร้อนสาธารณะที่ชิราโฮเนะออนเซ็น (ค่าใช้บริการ 520 เยน) กับข้าวต้มที่ต้มด้วยน้ำออนเซ็นกับเกลือและเครื่องจิ้ม

ตารางเวลารถบัสไปชิราโฮเนะออนเซ็น
รถบัสจากมัตสึโมโต้ไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
รถบัสจากคามิโคจิไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
รถบัสจากโนริคุระไปชิราโฮเนะออนเซ็น >

ย้อนเวลาชมโรงเรียนเก่าไคจิ สมัยเปิดประเทศ

โรงเรียนเก่าไคจิ (Former Kaichi School) เป็นอีกหนึ่งสมบัติแห่งชาติในมัตสึโมโต้ ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมสวยๆแปลกๆห้ามพลาด เพราะที่นี่เป็นตัวแทนสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นในยุคที่เพิ่งเริ่มเปิดประเทศและรับเอาวัฒนธรรมและเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกเข้ามา ทำให้เกิดการผสมผสานกันของวัฒนธรรม ซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมเลียนแบบตะวันตก (Giyofu Architecture)

 
DNR_3049
โรงเรียนเก่าไคจิ หนึ่งในสัญลักษณ์ยุคเริ่มต้นพัฒนาการศึกษาของประเทศญี่ปุ่น

 

อ่านเพิ่มเติม: สมบัติของชาติแห่งที่ 2 ของมัตสึโมโต้ – โรงเรียนเก่าไคจิ

นั่งเล่นร้านคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คอกาแฟและผู้รักในของหวานทั้งหลาย เมื่อมามัตสึโมโต้ ถ้ามีเวลาแนะนำให้แวะร้านคาเฟ่ด้วย เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านกาแฟและของหวานที่ต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งคาเฟ่ร้านหนังสือไปจนถึงร้านกาแฟแบบแอนทีค เดินเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว ก็แวะพักรับประทานของหวานสักหน่อยจะได้มีแรงเดินต่อ!

 
matsumoto_cafe_souundo_6-1
matsumoto_cafe_souundo_1-1
matsumoto_cafe_souundo_2-1
matsumoto_cafe_souundo_3-1
 

ร้านแรกที่แนะนำคือ Soundo (想雲堂) (อ่านว่าโซอุนโด) เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆให้ความรู้สึกอบอุ่น และเต็มไปด้วยหนังสือกว่า 6,000 เล่ม นอกจากกาแฟและเบเกอรี่อร่อยๆ ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับกับแกล้มด้วย

 
matsumoto_cafe_marumo_1-1
matsumoto_cafe_marumo_2-1
matsumoto_cafe_marumo_3-1
 

อีกแห่งหนึ่งคือร้าน Coffee Marumo (珈琲まるも) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1956 เป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นมาช้านาน ถ้าใครชอบเฟอร์นิเจอร์เก่าๆสวยๆ แนะนำที่นี่เลย

จิบค็อกเทลในบาร์ยามค่ำคืน

หลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า เมืองมัตสึโมโต้ก็กลายเป็นเมืองแห่งบาร์!

ในเมืองมัตสึโมโต้มีบาร์ทั้งหมดประมาณ 20 แห่ง เมื่อเทียบกับประชากรเพียง 240,000 คน ทำให้มัตสึโมโต้ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองแห่งบาร์” บาร์แต่ละแห่งต่างก็มีเอกลักษณ์ต่างกันออกไป แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือร้าน “Main Bar Coat” ด้วยการตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ทำด้วยไม้สวยๆ ทำให้ได้บรรยากาศสบายๆอบอุ่น และแน่นอนว่าค็อกเทลที่นี่ก็อร่อยและสวยด้วย!

แต่ถ้าหากอยากจะจิบแอลกอฮอล์กับชมวิวกลางคืนแบบโรแมนติกไปพลาง แนะนำให้ขึ้นไปบาร์บนชั้น 14 ของโรงแรมบัวนาวิสต้า (Hotel Buena Vista) ที่นี่สามารถชิมค็อกเทลชงด้วยฝีมือบาร์เทนเดอร์มือรางวัลได้ด้วย
 
matsumoto_bar_buena_vista
“Sopresa” บาร์สุดโรแมนติกที่ชั้นบนสุดของโรงแรมบัวนาวิสต้า

ชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแขนงต่างๆ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้

ถ้าใครไม่รู้ ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่า มัตสึโมโต้เป็นบ้านเกิดของศิลปินแนวศิลปะก้าวหน้าชื่อดังอย่าง “คุซามะ ยาโยอิ” (Kusama Yayoi) ขณะเดินเที่ยวอยู่เพลินๆ คุณอาจจะเห็นความเป็นคุซามะ ยาโยอิตามที่ต่างๆ อย่างเช่น รถบัส “Town Sneaker” ซึ่งวิ่งไปในทั่วเมืองมัตสึโมโต้
 
yayoi-kusama (6)
“Mizutama Ranbu” รถบัสดีไซน์โดยคุณคุซามะ ยาโยอิ หนึ่งในรถบัสท่องเที่ยว Town Sneaker ที่วิ่งในมัตสึโมโต้

ใครที่ชอบผลงานของคุซามะ ยาโยอิ อย่าลืมแวะพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto City Museum of Arts) โดยเฉพาะปี 2022 มีการจัดแสดงผลงานของคุซามะ ยาโยอิถึง 2 นิทรรศการด้วยกัน

Yayoi Kusama: The Place for My Soul
ช่วงจัดแสดง: 2022/4/21 – 2023/4/9

Yayoi Kusama: Print Works
ช่วงจัดแสดง: 2022/7/23 – 2022/9/25

(*อย่าลืมเช็กวันปิดทำการของพิพิธภัณฑ์จากเว็บไซต์ทางการด้วยนะ)

yayoi-kusama (14)

ศิลปะจัดวางที่ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ โดย Yayoi Kusama, The Visionary Flowers,2002; To the Future, from Matsumoto, 2016

พิพิธภัณฑ์ภาพพิมพ์อุคิโยะเอะ (Ukiyo-e)

Japan Ukiyo-e Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บผลงานภาพพิมพ์อุคิโยะเอะไว้เป็นจำนวนมากที่สุดในโลก มากกว่า 1 แสนชิ้น ทั้งหมดเป็นคอลเลกชั่นสะสมส่วนตัวของครอบครัวคุณซะไก (Sakai) ซึ่งเป็นผู้ให้การอุปถัมภ์ศิลปะอุคิโยะเอะมาตั้งแต่ปลายยุคเอโดะ ถ้าใครชอบภาพคลื่นยักษ์ของโฮะคุไซ ก็น่าที่จะชอบภาพอุคิโยะเอะที่นี่ด้วย

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเล็กน้อย แนะนำให้เดินทางด้วยรถแท็กซี่หรือรถบัส Town Sneaker สาย west course

matsumoto_ukiyoe_museum 20191022-DNR_8503

ภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ประดับด้วยกระจกสไตล์โมเดิร์น กับภาพพิมพ์อุคิโยะเอะน่าขบขันซึ่งจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

อ่านเพิ่มเติม:
ชมคอลเลคชั่นภาพอุคิโยะเอะ “โลกแห่งความล่องลอย” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม

เพียงแค่ได้เดินเที่ยวบนแดนอาทิตย์อุทัยก็ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นแล้ว แต่บางอย่างถ้าไม่ได้เข้าร่วมกับทัวร์ท้องถิ่นก็ไม่สามารถจะเรียนรู้สัมผัสได้ด้วยตนเอง แนะนำให้ลองเช็คเว็บไซต์ Matsumoto Experience  ซึ่งรวบรวมทัวร์และกิจกรรมต่างๆพร้อมไกด์ภาษาอังกฤษเอาไว้ เผื่อจะมีกิจกรรมไหนที่สนใจ ยกตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

คอสเพลย์ซามูไรและฟันดาบ

นอกจากจะได้แต่งชุดเลียนแบบซามูไรแล้ว เจ้าหน้าที่จะสอนกระบวนท่าฟันดาบง่ายๆให้เราด้วย ไม่เฉพาะเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็เข้าร่วมได้!

matsumoto_samurai_experience_1

กิจกรรมคอสเพลย์ซามูไรและฟันดาบ ©Photo credit: Matsumoto Experience

ตีกลองไทโกะ (Taiko)

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของชาวต่างชาติ คือ การลองตีกลองไทโกะ (Taiko) นักตีกลองท้องถิ่นจะช่วยสอนวิธีการตีกลองไทโกะทีละเสต็ป ไม่แน่เผลอๆรู้ตัวอีกทีก็พร้อมที่จะโชว์เดี่ยวแล้ว!

matsumoto_taiko_experience_3
กิจกรรมตีกลองไทโกะ ©Photo credit: Matsumoto Experience and Visit Matsumoto website

ลองทำลูกอมญี่ปุ่นโบราณ

ใกล้ๆกับปราสาทมัตสึโมโต้ มีร้านทำลูกอมญี่ปุ่นโบราณชื่อ Yamaya (山屋御飴所) ซึ่งทำลูกอมและขนมอื่นๆกันมายาวนานกว่า 300 กว่าปีตั้งแต่ปี 1672 แนะนำกิจกรรมนี้เป็นพิเศษกับครอบครัวที่มีเด็กๆมาด้วย

 
matsumoto_candy_making_experience
ลูกอมที่ทำแน่นอนว่าสามารถนำกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย

เข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่นในมัตสึโมโต้

การได้เข้าร่วมเทศกาลท้องถิ่นทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆนอกเหนือไปจากที่สถานที่ที่แนะนำในเว็บไซต์ท่องเที่ยวทั่วไป ที่เมืองมัตสึโมโต้มีจัดงานเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี ดังนี้

 
matsumoto_ameichi_festival-1
matsumoto_ice_festival-1
matsumoto_night_sakura_festival-1
matsumoto_craft_fair-1
matsumoto_taiko_drum_festival-1
matsumoto_bon_bon_festival-1
asama_taimatsu_festival-1
 
ปฏิทินเทศกาลท้องถิ่นในมัตสึโมโต้
  • ต้นเดือนมกราคม: Ameichi Festival
  • 21-23 มกราคม: Matsumoto Castle Ice Sculpture Festival
  • 8-15 เมษายน: Nighttime Cherry Blossom Viewing
  • 28-29 พฤษภาคม: Crafts Fair Matsumoto
  • 30 กรกฎาคม: Taiko Drum Festival
  • 6 สิงหาคม: Matsumoto Bon-Bon
  • 13 สิงหาคม: Seiji Ozawa Matsumoto Festival
  • 8 ตุลาคม: Asama Onsen Taimatsu Festival

ลองชิมอาหารท้องถิ่นของมัตสึโมโต้

อย่างที่หลายๆคนพูดกันว่า อาหารเป็นหนึ่งในวิธีเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีที่สุด อาหารท้องถิ่นที่ควรลองเมื่อมามัตสึโมโต้มีมากมาย จะมีอะไรบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วด้านล่าง

matsumoto_food_shinshu_gyu-1
matsumoto_food_creaft_beer-1
matsumoto_food_toji_soba-1
matsumoto_food_basashi-1
matsumoto_food_insects-1
matsumoto_food_sanzokuyaki-1
  • โทจิโซบะ (Toji-soba): โซบะเสิร์ฟร้อนแบบสไตล์ชาบูชาบู รับประทานโดยเอาเส้นใส่ตะกร้อจุ่มลงในหม้อให้เส้นร้อน รับประทานก็น้ำซุปรสเข้มข้น ใครไปเที่ยวฤดูหนาว สั่งเมนูนี้รับรองว่าฟิน
  • เนื้อชินชูกิว (Shinshu-gyu): มีชื่อเรียกย่อๆมาจาก Apple Wagyu Shinshu-gyu เป็นแบรนด์เนื้อวัวของจังหวัดนากาโนะที่เลี้ยงด้วยกากแอปเปิ้ล กากถั่วเหลือง กากสาเก ซึ่งล้วนแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกากผลิตน้ำแอปเปิ้ล เต้าหู้ มิโสะ สาเก ของขึ้นชื่อของจังหวัดนากาโนะทั้งสิ้น อาหารที่ใช้เลี้ยงวัวเหล่านี้มีการวิจัยแล้วว่าทำให้วัวสุขภาพดีและมีเนื้อรสชาติอร่อยด้วย
  • ไก่ทอดซันโซะกุยากิ (Sanzoku-yaki): เป็นเนื้อไก่ทอดที่หมักด้วยซอสชนิดพิเศษทำจากโชยุและกระเทียมบด เมนูหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดานี้ เรียกได้ว่าเป็น soul food ของชาวมัตสึโมโต้เลยก็ว่าได้
  • มัตสึโมโต้คราฟต์เบียร์ (Matsumoto Craft Beer): วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2016 ใช้ฮอปส์และน้ำพุธรรมชาติจากเทือกเขาเจแปนแอลป์และที่ราบสูงอุสึกุชิกาฮาระในการผลิต มีให้เลือกหลากหลายรสชาติตามความชอบ
  • เนื้อม้าบาซาชิ (Basashi): เนื้อม้าซาชิมิเสิร์ฟแบบดิบกับหัวหอมฝานบางๆ จิ้มโชยุกับกระเทียมบดหรือวาซาบิก็ได้แล้วแต่ชอบ
  • ชินชูแซลมอน (Shinshu Salmon): ชินชูแซลมอนเป็นชื่อแบรนด์แซลมอนที่เลี้ยงเฉพาะในจังหวัดนากาโนะ รับรองว่าเนื้อหวานมันไม่แพ้ที่ไหนแน่นอน จะรับประทานดิบหรือทำให้สุกก็อร่อย
  • แมลงหลากหลายชนิด: ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ! ที่ญี่ปุ่นเองก็มีวัฒนธรรมกินแมลงเหมือนบ้านเรา ขณะที่บ้านเราจะชอบนำมาทอดกิน แต่ที่ญี่ปุ่นจะชอบนำมาต้มเชื่อมกับโชยุและมิรินให้มีรสชาติหวาน ที่พบบ่อยก็จะมีพวกตั๊กแตนและตัวอ่อนของพวกตัวต่อ สามารถหาซื้อกินง่ายๆได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในมัตสึโมโต้

ฤดูท่องเที่ยวมัตสึโมโต้ที่แนะนำ

เมืองมัตสึโมโต้มีความสวยงามแตกต่างไปตามแต่ฤดูกาล จึงไม่มีฤดูไหนที่น่าเที่ยวที่สุด ใครที่กำลังลังเล ไปดูกันเลยว่าแต่ละฤดูกาลมีอะไรให้ดูบ้าง

มัตสึโมโต้ในฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – ต้นพ.ค.)

ช่วงใบไม้ผลิราวๆกลางเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคมคือ ฤดูยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะสามารถชมดอกซากุระบานได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถชมเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่มีหิมะปกคลุมบนยอดได้จากในตัวเมืองด้วย (ช่วงซากุระบานเต็มที่ในตัวเมืองอยู่ราวกลางเดือนเมษายน)

matsumoto_castle_spring_1

matsumoto_castle_spring_2

ปราสาทมัตสึโมโต้รายล้อมไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระ

มัตสึโมโต้ในฤดูร้อน (กลางพ.ค. – ก.ย.)

เหตุผลที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาเที่ยวจังหวัดนากาโนะในหน้าร้อน ก็เพราะฤดูร้อนที่นี่มีความชื้นต่ำ ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเหนียวเหนอะหนะอย่างเมืองใหญ่ เช่นโตเกียว ออกจะเย็นสบายในช่วงเช้าและกลางคืน และถ้าได้ขึ้นไปบนเขา ก็ยิ่งร่มรื่นสบาย เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ มีความสดชื่นจากลำธารใสแจ๋ว ลมภูเขายังช่วยพัดเอาอากาศเย็นๆมาด้วย

 

matsumoto_summer_kamikochi_1
 
matsumoto_summer_kamikochi_2
 

มัตสึโมโต้ในฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.)

อากาศเย็นสบาย อาหารอร่อยๆ และใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงตามทางเดิน ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเหมาะสำหรับการเดินเที่ยวในเมืองเป็นที่สุด ขณะที่บนเขาสูงขึ้นไป ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้มและแดงตั้งแต่ปลายกันยายนถึงต้นพฤศจิกายน ฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมือจะเริ่มช้ากว่า ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน

matsumoto_autumn_yohashira_shrine_1 matsumoto_autumn_yohashira_shrine_2

ศาลเจ้าโยฮะชิระ (Yohashira Shrine) ใกล้ๆกับปราสาทมัตสึโมโต้

มัตสึโมโต้ในฤดูหนาว (ธ.ค. – มี.ค.)

ฤดูหนาว ฤดูที่เหมาะกับการแช่ออนเซ็นเป็นที่สุด! เปรียบเทียบกับฝั่งประเทศยุโรปแล้ว ฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะมีวันที่แดดออกฟ้าใสมากกว่า บรรยากาศจึงไม่ค่อยอึมครึม ทำให้อยากจะออกไปเดินเที่ยวอาบแดดให้ร่างกายอบอุ่น หรือขึ้นเขาไปสนุกกับการเล่นหิมะ เล่นสกีหรือเดินสโนว์ชูส์
 
 
matsumoto_castle_winter_2-1
matsumoto_castle_winter_3-1
matsumoto_castle_winter_4-1
 

ในตัวเมืองมัตสึโมโต้ไม่ค่อยจะมีหิมะตกเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ตกแล้วล่ะก็ เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็น Snow Wonderland เลยทีเดียว

gallery12-1

ใครว่าฤดูหนาวไปคามิโคจิไม่ได้ ที่จริงไปได้นะ แต่ต้องเดินสโนว์ชูว์เข้าไปเอง!

โรงแรมน่าพักในมัตสึโมโต้

เมืองมัตสึโมโต้มีโรงแรมให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งโรงแรมราคาประหยัด ไปจนถึงเรียวกังหรูหรา บทความนี้เรามีโรงแรมมาแนะนำด้วยกัน 3 แห่ง 3 สไตล์

Utsukushigahara Onsen Shoho

เรียวกังอุสึกุชิกาฮาระออนเซ็นโชโฮ เป็นหนึ่งในเรียวกังระดับพรีเมี่ยม สามารถชมวิวเจแปนแอลป์แบบพาโนราม่าได้จากห้องพักทุกห้อง

 
matsumoto_hotel_shoho_1-1
matsumoto_hotel_shoho_3-1
matsumoto_hotel_shoho_2-1
 

มีห้องพักให้เลือกหลากหลายสไตล์ทั้งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมปูด้วยเสื่อทาตามิ ห้องแบบสมัยใหม่มีเตียง หรือจะเป็นห้องที่มีอ่างออนเซ็นให้แช่ในส่วนตัวก็มี

(*มีรถบัสรับ-ส่งฟรีจากสถานีมัตสึโมโต้ด้วย)

หนึ่งในไฮไลต์ของการเข้าพักในโรงแรมสไตล์เรียวกัง ก็คืออาหารมื้อเย็นที่จะจัดเสิร์ฟแบบไคเซะกิ (Kaiseki) โดยมีพนักงานในชุดกิโมโนเข้ามาเสิร์ฟอาหารทีละจานจนครบคอร์ส

อาหารมื้อเย็นที่ปรุงด้วยความพิถีพิถัน ใช้วัตถุดิบของอร่อยในแต่ละฤดูกาลและจัดวางในภาชนะสวยงามแตกต่างกันไป

จองห้องพักเรียวกัง Utsukushigahara Onsen Shoho >

Hotel Buena Vista

โรงแรมบัวนาวิสต้าเป็นซิตี้โฮเทลที่ดีและมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมัตสึโมโต้ โดยเฉพาะบริการที่อบอุ่นและเป็นมิตร อยู่ห่างจากสถานีและท่ารถบัสมัตสึโมโต้เพียงเดินไม่ถึง 10 นาที แต่ก็ยังมีรถรับ-ส่งฟรีจากสถานีทุกๆ 10 นาทีด้วย

matsumoto_hotel_buena_vista_3hotel_buena_vista_exterior (3)

โรงแรมบัวนาวิสต้าและห้อง Superior Twin Room

ก่อนเริ่มวันใหม่คงไม่มีอะไรดีไปกว่าอาหารเช้าดีๆสักมื้อ ที่โรงแรมบัวนาวิสต้ามีทั้งอาหารเช้าแบบฝรั่งและแบบญี่ปุ่นเตรียมไว้ให้พร้อมเพื่อเพิ่มพลังก่อนออกเดินเที่ยว

matsumoto_hotel_buena_vista_1

ตัวอย่างอาหารเช้าที่ห้องอาหาร La Café Terraza
 

matsumoto_hotel_buena_vista_2

อาหารเช้าชุดปิกนิกบนชั้น 14 ของโรงแรมกับวิวเจแปนแอลป์ (ต้องจองล่วงหน้า)
 
จองห้องพัก Hotel Buena Vista >

Alpico Plaza Hotel

โรงแรมอัลปิโก้พลาซ่า โรงแรมระดับมาตรฐานกับราคาที่สมเหตุสมผล บนโลเคชั่นอันแสนสะดวกสบาย ใกล้ทั้งสถานีรถไฟ ท่ารถบัส ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต

matsumoto_hotel_alpico_plaza_1-1
matsumoto_hotel_alpico_plaza_2-1

ถัดจากโรงแรมไปคือ “Matsumoto Tsunagu Yokocho” แหล่งรวมร้านอาหารและร้านอิซากายะไว้กว่า 10 ร้าน มีทั้งเมนูปิ้งย่าง ราเม็น กิวทัง(ลิ้นวัว) ซาชิมิ และอาหารท้องถิ่นมากมายให้เลือก แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้นความสะดวกสบายเป็นที่สุด

matsumoto_tsunagu_yokocho_1-1
matsumoto_tsunagu_yokocho_2-1
matsumoto_tsunagu_yokocho_3-1

จองห้องพัก Alpico Plaza Hotel >

ตัวอย่างแผนเที่ยวมัตสึโมโต้

แผนเที่ยวมัตสึโมโต้ 1 วัน

09:00      ชมปราสาทมัตสึโมโต้
10:30      ลองกิจกรรมคอสเพลย์ซามูไรและฟันดาบ
13:00      รับประทานอาหารที่ถนนนากามาจิหรือนาวาเตะ
15:00      เข้าชมพิพิธภัณพ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้
17:30      กลับโรงแรม พักผ่อน
18:00      รับประทานอาหารคอร์สแบบญี่ปุ่น “ไคเซะกิ”
21:00      แช่ออนเซ็นผ่อนคลายร่างกายก่อนเข้านอน

แผนเที่ยวมัตสึโมโต้ 2 วัน

Day 1 (*สมมุติว่าเดินทางถึงมัตสึโมโต้วันก่อนหน้า)

09:30      เดินเที่ยวชมธรรมชาติในคามิโคจิ
15:15      แวะแช่น้ำพุร้อนที่ชิราโฮเนะออนเซ็น
18:30      กลับโรงแรมในตัวเมืองมัตสึโมโต้
19:00      รับประทานอาหารที่ Matsumoto Tsunagu Yokocho

 

Day 2

09:00      ชมปราสาทมัตสึโมโต้
10:30      ลองกิจกรรมคอสเพลย์ซามูไรและฟันดาบ
13:00      รับประทานอาหารที่ถนนนากามาจิหรือนาวาเตะ
15:00      เข้าชมพิพิธภัณพ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้
17:30      กลับโรงแรม พักผ่อนก่อนเวลาอาหารเย็น
20:30      แวะจิบค็อกเทลที่บาร์ในเมืองมัตสึโมโต้

เช็คพาสรถบัสที่ใช้เที่ยวในและรอบๆมัตสึโมโต้ >

การเดินทางไปมัตสึโมโต้

เมืองมัตสึโมโต้สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งทางรถไฟและรถบัส
ดูตารางรถบัสทั้งหมดที่ไปมัตสึโมโต้ >

 
matsumoto_access_map-en
รวมวิธีการเดินทางไปมัตสึโมโต้

จากโตเกียวไปมัตสึโมโต้

ถ้าหากมี JR Pass (All area หรือ East Pass (Nagano, Niigata area)) อยู่แล้ว ก็สามารถนั่งรถไฟ JR Azusa จากชินจูกุมามัตสึโมโต้ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 40 นาที (ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 6,620 เยน)

แต่ถ้าใครไม่มีพาส JR หรืออยากประหยัดเงิน ก็สามารถนั่งรถบัส Alpico จาก Shinjuku bus terminal มาได้ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 20 นาที ราคาตั๋วขาเดียวอยู่ระหว่าง 4,100 – 4,500 เยน

 

matsumoto_bus_terminal_1
ท่ารถบัสมัตสึโมโต้ (Matsumoto Bus Terminal) อยู่ในตึกเดียวกับ Alpico Plaza Mall ข้างในมีทั้งร้านอาหาร (ชั้น7) ร้านของฝาก ซุปเปอร์มาร์เก็ต Delicia (ชั้นใต้ดิน) ร้าน 100 เยน ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของมือสองด้วย
 

ดูตารางเวลารถบัสสายชินจูกุ – มัตสึโมโต้ >
ซื้อตั๋วรถบัสสายชินจูกุ – มัตสึโมโต้ออนไลน์ >

จากนาโกย่าไปมัตสึโมโต้

จากนาโกย่าสามารถนั่งรถไฟ JR Shinano express ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. (6,140 เยน) หรือนั่งรถบัส Alpico โดยใช้เวลา 3 ชม. 45 นาที (3,400 – 4,800 เยนต่อเที่ยว)

ดูตารางเวลารถบัสสายนาโกย่า – มัตสึโมโต้ >
ซื้อตั๋วรถบัสสายนาโกย่า – มัตสึโมโต้ออนไลน์ >

จากโอซาก้าไปมัตสึโมโต้

จากโอซาก้าไปมัตสึโมโต้ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. โดยชินคันเซ็นและต่อรถไฟด่วน (10,800 เยนต่อเที่ยว) หากเดินทางโดยรถบัสจะมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 4,500 – 7,300 เยนต่อเที่ยว ขึ้นอยู่กับวันเดินทางและวันที่จองตั๋วว่าจองล่วงหน้านานแค่ไหน

รถบัสสายนี้มีรอบที่วิ่งกลางคืนด้วย แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทาง

ดูตารางเวลารถบัสสายโอซาก้า – มัตสึโมโต้ >
ซื้อตั๋วรถบัสสายโอซาก้า – มัตสึโมโต้ออนไลน์ >

จากนากาโนะไปมัตสึโมโต้

จากนากาโนะไปมัตสึโมโต้ สามารถนั่งรถไฟ JR สาย Shinonoi Line (1,170 เยน / 1 ชม. 15 นาที) หรือรถบัส Alpico ก็ได้ (1,600 เยน / 1 ชม. 15 นาที) แต่รถบัสสายนี้ให้บริการแค่วันธรรมดาเท่านั้น

ดูตารางเวลารถบัสสายนากาโนะ – มัตสึโมโต้ >
(รถบัสสายนี้ไม่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า)

จากทาคายามะไปมัตสึโมโต้

ระหว่างทาคายามะกับมัตสึโมโต้มีรถบัส Alpico และ Nohi ให้บริการวันละ 4 เที่ยวไปกลับ (3,500 เยน / 2 ชม. 30 นาที)

ดูตารางเวลารถบัสสายทาคายามะ – มัตสึโมโต้ >
(รถบัสสายนี้ไม่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า)

การเดินทางเที่ยวในมัตสึโมโต้

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในมัตสึโมโต้ เช่น ปราสาทมัตสึโมโต้  โรงเรียนเก่าไคจิ ถนนนาวาเตะ/นากามาจิ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้ อยู่ในระยะทางไม่ไกลกันมาก สามารถเดินเที่ยวได้โดยรอบ แต่ก็สามารถยืมจักรยานหรือขึ้นรถบัส Town Sneaker เพื่อชมเมืองก็ได้เช่นกัน

ส่วนหมู่บ้านออนเซ็น เช่น อุสึกุชิกาฮาระออนเซ็นและอาซามะออนเซ็น สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัส Alpico โดยขึ้นรถบัสได้ที่ท่ารถบัสมัตสึโมโต้ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ JR มัตสึโมโต้ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 20 นาทีก็ถึงออนเซ็นทั้ง 2 แห่ง

  • รถบัสไปอุสึกุชิกาฮาระออนเซ็น (สาย 31) รถออกทุกๆ 20-30 นาที
  • รถบัสไปอาซามะออนเซ็น (สาย 32) รถออกทุกๆ  15-60 นาที
matsumoto_bus_terminal_alpico
รถบัส Alpico รถผู้โดยสายขึ้นรถอยู่ที่ท่ารถบัสมัตสึโมโต้
 

สถานที่ท่องเที่ยวในแถบภูเขา เช่น คามิโคจิและชิราโฮเนะออนเซ็น อยู่ห่างออกไปจากตัวเมือง สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟสาย Kamikochi และไปต่อรถบัสที่สถานี Shin-Shimashima ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 30-45 นาที

อ่านเพิ่มเติม:
วิธีการเดินทางจากมัตสึโมโต้ไปคามิโคจิโดยรถบัส

สุดท้าย หากใครที่กำลังวางแผนเที่ยวทั้งคามิโคจิ มัตสึโมโต้และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น โนริคุระ ทาคายามะ ชินโฮทากะโรปเวย์ แนะนำให้เช็คพาสรถบัสด้านล่างด้วย นอกจากจะสะดวกสบาย ใช้ยื่นให้คนขับดูแล้วขึ้นรถบัสได้เลย ยังประหยัดค่ารถบัสกว่าการซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆด้วย (*ขึ้นอยู่กับแผนเที่ยวด้วย)

พาสรถบัส 2-Day Free Passport >
พาสรถบัส 4-Day Alps WIDE Free Passport >
พาสรถบัส Alps Crossing Ticket >

 
 
MENU