norikura-mountain-ridge
norikura-mountain-ridge-1440x1080

ปีนยอดเขาที่สูงที่สุดของภูเขาโนะริคุระ (3,026 ม.) ภายในแค่ 3 ชั่วโมง!

การจะปีนเขาสูงกว่า 3,000 เมตร อาจจะฟังดูยากลำบากเหลือเกินสำหรับคนที่ไม่เคย แต่ถ้าเป็นที่ยอดเขาโนะริคุระในจังหวัดนากาโนะแล้วละก็ รับรองว่าไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน ตามเราไปปีนกันเลยค่ะ


“โนะริคุระ” ภูเขาที่สูงกว่า 3,000 เมตรแต่ปีนได้ชิลๆไม่ยาก

ภูเขาโนะริคุระ (Mt. Norikura หรือ Norikuradake) เป็นชื่อเรียกรวมๆของภูเขาทั้ง 23 ยอดทางใต้สุดของเทือกเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือ โดยมียอดเขาที่สูงที่สุดคือ “ยอดเค็งกามิเนะ” (Kengamine) ความสูง 3,026 เมตร ในบรรดายอดเขาต่างๆในเจแปนแอลป์มียอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 3,000 เมตรทั้งหมด 20 ยอด ซึ่งล้วนแต่ต้องการประสบการณ์ในการเดินป่าปีนเขา อุปกรณ์และพละกำลังประมาณหนึ่งในการพิชิต

อย่างไรก็ตาม ยอดเขาเค็งกามิเนะของภูเขาโนะริคุระเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นภูเขาระดับความสูงเกิน 3,000 เมตรที่ปีนได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่ง แม้กระทั่งเด็กประถมก็สามารถปีนได้ โรงเรียนหลายแห่งถึงกับจัดทัศนศึกษาพานักเรียนไปเดินเขาที่นี่เลย เหตุผลที่ทำให้ยอดเขาที่มีความสูงขนาดนี้ปีนง่ายและใช้เวลาไม่นานก็เพราะว่ามีรถบัสที่พาเราไปถึงจุดสตาร์ทปีนเขาที่อยู่สูงกว่า 2,702 เมตร ย่นระยะทางและความชันในการปีนไปได้เยอะมากนั่นเอง

 mt-norikura-tatamidaira

ป้ายรถบัส N-42 Mt. Norikura (Tatamidaira) หรือบางครั้งก็เรียกกันว่า “ท่ารถบัสทาตามิไดระ” ท่ารถบัสที่อยู่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ข้อมูลเบื้องต้น

ระยะทาง: ประมาณ 5.55 ก.ม.
ระยะเวลา: ประมาณ 3 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาพักและถ่ายรูป)
ความสูง: 324 เมตร (จากท่ารถบัส 2,702 เมตร ยอดเขาเค็งกามิเนะ 3,026 เมตร)
ฤดูกาลในการปีน: เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม
เส้นทางเดิน: ท่ารถบัสทาตามิไดระ > ที่พักบนเขาคาตาโนะโคะยะ (Katanokoya Hut) > ยอดเขาเค็งกามิเนะ > ท่ารถบัสทาตามิไดระ

แผนที่ปีนเขาโนะริคุระ

Tatamidaira-area-map
แผนที่แสดงระยะเวลาและเส้นทางปีนเขาไปยอดต่างๆรอบภูเขาโนะริคุระ

เตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกเดินทางต้องยื่นแผนการเดินเทรกก่อน ซึ่งจะมีกล่องให้หย่อนที่ด้านหน้าทางเข้าเส้นทางปีนเขา เป็นข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ข้อมูลที่กรอกจะช่วยให้ทางทีมช่วยเหลือปฏิบัติงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังควรต้องพกกระดิ่งติดต่อเพื่อให้ส่งเสียงไม่ให้สัตว์เข้ามาใกล้ด้วย ถ้าไม่มีก็สามารถซื้อได้ที่ร้านของฝากที่ท่ารถบัส

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มแผนการเดินเทรก >
ดูตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์ม >

restaurant-tatamidaira-1

กล่องไม้สำหรับยื่นแผนการเดินเทรกตั้งอยู่ข้างๆแผ่นป้ายแผนที่ (มุมซ้ายล่างของรูป)

เริ่มออกเดินทางจากท่ารถบัสทาตามิไดระ

จากท่ารถบัสจะมีทางเดินเป็นบันไดลงไปยังลานดอกไม้อัลไพน์ด้านล่าง เดินไปตามทางเดินเรื่อยๆก็จะพบกับบึงสีเขียวมรกตสวยงามทางด้านขวา ชื่อ “คิเอะซึกะ”  (Kiezuga Pond) หากเดินทางมาในช่วงต้นหน้าร้อน บึงแห่งนี้ก็จะยังหลงเหลือหิมะให้เห็นด้วย เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆก็จะเจอกับป้ายทางเดินขึ้นยอดเขาฟุจิมิ (Mt. Fujimi) ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งเราจะเก็บไว้ปีนขากลับหากเวลายังมีเวลาเหลือ ทางในช่วงนี้จะเป็นทางเดินหินกรวดไปจนถึงที่พักบนเขาชื่อ “คาตาโนะโคะยะ” (Katanokoya Hut) จากท่ารถบัสทาตามิไดระมาจนถึงจุดนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาที

 flower-garden-tatamidaira

ทางเดินลงไปสู่สวนดอกไม้อัลไพน์ ซึ่งจะบานในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม จนถึงสิงหาคม
 

Kiezuka-ike-pond

วิวบึงคิเอะซึกะที่มองลงมาระหว่างที่ปีนขึ้นไปยอดฟุจิมิ

พักเหนื่อยที่คาตาโนะโคะยะ

ที่บ้านพักบนเขาคาตาโนะโคะยะมีขายอาหารเมนูง่ายๆ เช่น ข้าวหน้าแกงกะหรี่ โซบะ อุด้ง รวมถึงขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ที่สำคัญที่นี่ยังมีขายซอฟต์ครีมด้วย! แต่เราจะเก็บไว้กินขากลับลงไป รับรองว่ากินตอนขากลับลงมาหลังจากปีนถึงยอดแล้วอร่อยกว่าจริงๆ สำหรับคนที่เข่าไม่ดี สามารถเช่าไม้ค้ำได้ในราคา 300 เยน แต่ต้องจ่ายค่าประกัน 1,000 เยน ซึ่งจะได้รับคืนในตอนหลังด้วย

 
katanokoya-hut-1 
 

ที่พักคาตาโนะโคะยะอยู่ครึ่งทางระหว่างเดินไปยอดเขาเค็งกามิเนะ นอกจากอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีจำหน่ายของฝากกระจุ๋มกระจิ๋มเกี่ยวกับการปีนเขาด้วย

 
katanokoya-hut-2
 
soft-serve-at-katanokoya-hut

ซอฟต์ครีมรสชาติเข้มข้น เสียดายที่เป็นโคนแบบธรรมดาที่ถ้าเปียกแล้วจะนิ่ม ถ้าเป็นโคนวาฟเฟิลจะให้ 10 เต็ม 10 เลย!

เดินทางต่อไปยอดเขาเค็งกามิเนะ

การปีนเขาที่แท้จริงจะเริ่มต้นจากตรงนี้ โดยความรู้สึกส่วนตัว คิดว่าช่วงแรกที่ออกเดินจากคาตาโนะโคะยะเป็นช่วงที่ยากที่สุด เพราะทางเดินเป็นทรายและหินก้อนเล็กๆผสมกัน แถมยังเป็นเนินด้วยทำให้ลื่นไถลได้ง่ายโดยเฉพาะขากลับลงมา

kengamine-trailhead

hiking-trail-mt-norikura

หลังจากผ่านช่วงทางเดินปนทรายแล้วก็จะเป็นทางเดินที่เป็นหินก้อนใหญ่ๆ ซึ่งบางครั้งต้องใช้มือค้ำยันในการทรงตัว ถ้าจะให้ดีควรจะเตรียมถุงมือมาด้วย ระหว่างเดินให้คอยสังเกตตามก้อนหินจะมีเครื่องหมายวงกลมกับลูกศรที่บอกทางเดินที่ถูกต้องไว้

rocky-trail

P8190615-2

บึงกงเก็น “Gongen Pond” ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่อยู่สูงที่สุดอันดับสองของญี่ปุ่น

norikura-mountain-ridge

คู่พ่อลูกกำลังเดินเพลิดเพลินไปกับเส้นทางเดินเทรกสวยงามที่โนะริคุระ
 
 norikura-hiking-route

ทางเดินด้านซ้ายสำหรับเดินขึ้น ส่วนทางขวาไว้สำหรับขาลงเท่านั้น

norikura-peak
 

ซูมเข้าไป นั่นไง! ยอดเขาโนะริคุระที่เรากำลังจะปีนขึ้นไป

 
hiking-trail-mt-norikura-2
 

เพียงแค่ไม่กี่นาทีก่อนจะพิชิตถึงยอดจะเจอกับกระท่อมเล็กๆมีขายของที่ระลึกและเครื่องดื่ม ได้ยินมาว่ากระท่อมบนภูเขาแห่งนี้มีมานานกว่า 100 ปีแล้ว แต่เพิ่งซ่อมแซมไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ภายนอกเลยยังดูใหม่อยู่ พอเดินผ่านลุงเจ้าของก็เห็นแกยิ้มๆท่าทางอารมณ์ดี เลยแอบสงสัยว่ามีวันไหนที่แกรู้สึกเบื่อบ้างไหม ไม่รู้ว่าคุณลุงเจ้าของจะรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆตอนที่เรากำลังปีนอยู่นี่รู้สึกแฮปปี้มีความสุขที่สุดเลย

 
mt-norikura-summit-hut
กระท่อมบนยอดเขาโนะริคุระ (Mt. Norikura Summit Hut)
 
norikura-panorama-view
นั่งพักกินลมชมวิวพาโนราม่าก่อนปีนสู่ยอดเขาเฮือกสุดท้าย

หลังจากออกจากคาตาโนะโคะยะประมาณ 1 ชั่วโมงก็ปีน ”เค็งกามิเนะ” ยอดเขาที่สูงที่สุดของภูเขาโนะริคุระแล้ว ถ้าใครเคยปีนภูเขาที่อื่นในญี่ปุ่นก็จะรู้สึกเคยชินกับที่ตามยอดเขาต่างๆจะมีศาลเจ้าชินโตตั้งอยู่ เป็นเพราะว่าลัทธิชินโตเชื่อว่าตามสถานที่ธรรมชาติต่างๆจะมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ ภูเขาหรือทะเล นอกจากนี้ในอดีตการปีนเขาของคนญี่ปุ่นถือเป็นการจาริกแสวงบุญ จนเมื่อเข้าสู่ยุคใหม่แล้วจึงค่อยๆเปลี่ยนเป็นกีฬาสันทนาการอย่างหนึ่ง

 
norikura-shrine
เสาโทริอิและศาลเจ้าโนะริคุระ
 
Kengamine-3026m

จบภารกิจพิชิตยอดเขาโนะริคุระ 3,026 เมตร! น่าเสียดายที่ฝั่งด้านนี้เมฆลอยคลุ้งขึ้นมาบัง มองไม่เห็นวิวอะไรเลย

ถึงแม้ว่าภูเขาโนะริคุระจะเป็นภูเขาที่ปีนง่ายใช้เวลาไม่นาน แต่แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเหมือนเดินขึ้นลงบันไดที่บ้านแน่นอน อย่างไรก็ตาม ระหว่างเราเห็นเด็กวัยประถมอยู่หลายคน ดังนั้นสำหรับผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีก็น่าที่จะมาปีนได้ทุกคนค่ะ

TIPS ใครที่จะมาปีนก็ควรต้องเตรียมตัวมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องรองเท้าและเสื้อใส่กันลม ที่สำคัญไม่ควรใส่เสื้อผ้าคอตตอนหรือผ้าประเภทที่อุ้มน้ำ เพราะเวลาเหงื่อออกจะทำให้เรารู้สึกหนาวได้ การเช็คสภาพอากาศก็สำคัญอุณหภูมิของวันที่แดดออกกับวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้มแตกต่างกันมาก ควรเตรียมเสื้อผ้าให้สอดคล้องกับสภาพอากาศด้วย

แวะปีนขึ้นยอดเขาฟุจิมิและยอดเขาไดโคะคุ

ขากลับลงมาใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้นมาก หากใครยังมีพลังงานและเวลาเหลือ สามารถแวะปีนขึ้นยอดเขาฟุจิมิและไดโคะคุก่อนกลับไปท่ารถบัสได้ด้วย

mt-fujimi

 

ยอดเขาฟุจิมิ (Mt. Fujimi) 2,817 เมตร ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่คุณลุงข้างๆบอกว่า ถ้าอากาศไม่มีเมฆ จากตรงนี้จะมองเห็นภูเขาไฟฟุจิได้ด้วย

 

 
 mt-norikura-tatamidaira

 

จากยอดเขาฟุจิมิมองลงไปจะเห็นท่ารถบัสทาตามิไดระด้วย ส่วนด้านขวาคือบึงทสึรุกะ ซึ่งที่มาของชื่อก็มาจากรูปร่างบึงที่จินตนาการไปว่าดูคล้ายกับนกกระเรียนนั่นเอง (“ทสึรุ” แปลว่า นกกระเรียน)

 

บริเวณรอบๆท่ารถบัสทาตามิไดระ (ร้านอาหาร ห้องน้ำ)

ท่ารถบัสทาตามิไดระเป็นท่ารถบัสที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น (2,702 เมตร) สามารถเดินมาได้จากทั้งฝั่งจังหวัดนากาโนะโดยผ่านทางถนนเอคโค่ไลน์ (Echoline) และจากฝั่งจังหวัดกิฟุผ่านทางถนนสกายไลน์ (Skyline) ได้

 
tatamidaira-bus-terminal
รอบๆท่ารถบัสมีร้านอาหาร ร้านของฝาก ร้านค้าและห้องน้ำให้บริการ นอกจากนี้ก็ยังมีศาลเจ้าและจุดให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ร้านอาหาร: บริเวณรอบๆท่ารถบัสมีร้านอาหารหลายแห่ง ส่วนใหญ่มีเมนูอาหารท้องถิ่น เช่น เนื้อฮิดะ โซบะ โอะยากิ (คล้ายๆกับซาลาเปายัดไส้)  ร้านอาหารปิดทำการค่อนข้างเร็วตั้งประมาณ 3:30-4:30 น. ตามแต่ละฤดูกาล

ร้านขายของฝาก: นอกจากของฝากแล้วก็ยังขายอุปกรณ์ที่จำเป็นบางอย่างสำหรับการปีนเขาด้วย

ห้องน้ำ: ห้องน้ำแบบจ่ายเงิน (100 เยน) มีให้บริการอยู่บนชั้น 2 ของท่ารถบัส ส่วนห้องน้ำฟรีอยู่ด้านนอกใกล้ๆกับทางเดินขึ้นยอดเขามาโอ (Mt. Maou)

ที่พัก: ที่พักบริเวณใกล้ๆกับท่ารถบัสมี 2 แห่ง คือ กินเรอิโซ (Ginreiso) และฮะคุอุนโซ (Haku-unso) และที่ห่างออกไปหน่อยคือ คาตาโนะโคะยะ (Katano-koya)

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางเดินเทรก สภาพอากาศ ดอกไม้ในแต่ละฤดูกาล โบรชัวร์ส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น

hida-beef

เนื้อวัวฮิดะย่างกับมิโสะบนใบโอบะ (แมคโนเลีย) ของดังของทาคายามะ

ภาษาญี่ปุ่นที่เป็นประโยชน์

ถึงแม้ว่าทางเดินจะไม่ได้ยากซับซ้อนมาก แต่ป้ายบอกทางส่วนใหญ่มีแต่ภาษาญี่ปุ่น บางครั้งอาจจะทำให้เราลังเลได้ว่าจะไปทางไหนดี ถ้าจำหรือจดตัวอักษรคันจิข้างล่างไปด้วยก็จะทำให้อุ่นใจขึ้นได้

乗鞍岳 (norikuradake)            ยอดเขาโนะริคุระ (หรือ ยอดเขาเค็งกามิเนะ)
剣が峰  (kengamine)               ยอดเขาเค็งกามิเนะ
富士見岳 (fujimidake)             ยอดเขาฟุจิมิ
大黒岳 (daikokudake)             ยอดเขาไดโคะคุ
畳平 (tatamidaira)                   ท่ารถบัสทาตามิไดระ
肩の小屋 (katanokoya)           ที่พักบนเขาคาตาโนะโคะยะ
トイレ (toire)                           ห้องน้ำ


การเดินทางไปโนะริคุระ

ห้ามนำรถส่วนตัวขับขึ้นเขา

เพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงห้ามไม่ให้ขับรถส่วนตัวขึ้นไปบนเขา ถ้าหากเช่ารถขับมาเองก็ต้องจอดรถไว้ที่ข้างล่างแล้วเปลี่ยนมานั่งรถบัสขึ้นไป กรณีที่มาจากทางจังหวัดนากาโนะให้จอดรถที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโนริคุระ (Norikura Kogen Tourist Center) และถ้ามาจากฝั่งจังหวัดกิฟุก็ต้องจอดรถที่ที่จอดรถโฮโนะกิไดระ (Honoki Daira parking lot)

ดูตารางรถบัส Norikura Kogen Tourist Center – Mt. Norikura >
ดูตารางรถบัส Honoki Daira – Mt. Norikura >

 
norikura-echoline-summer
ถนนโนะริคุระเอคโค่ไลน์ (Norikura Echoline) ที่คดเคี้ยวสวยงามไปสู่ยอดโนะริคุระ

ปิดถนนช่วงฤดูหนาว

เนื่องจากปริมาณหิมะที่ตกหนัก ทำให้ต้องปิดถนนไม่ให้รถผ่านขึ้นไปยอดเขาโนะริคุระตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

ถนนสกายไลน์ (ฝั่งจ.กิฟุ) จะกลับมาเปิดอีกครั้งวันที่ 15 พฤษภาคม ส่วนถนนเอคโค่ไลน์ (ฝั่งจ.นากาโนะ) จะเปิดเส้นทางบางส่วนประมาณวันที่ 25 เมษายน และจะเปิดถนนตลอดเส้นทางตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ระหว่างช่วงที่เปิดเส้นทางเพียงบางส่วนจะให้บริการรถบัสชมกำแพงหิมะโนะริคุระเรียกว่า “ฮารุยามะบัส” (Haruyama Bus)

อ่านเพิ่มเติม
กำแพงหิมะโนะริคุระ: แฝดคนละฝากับกำแพงหิมะทาเตยามะคุโรเบะ

 

 
norikura-access-route
 

การเดินทางไปโนะริคุระจากฝั่งนากาโนะ (รถบัส ALPICO)

การเดินทางไปโนะริคุระก็คล้ายๆกับการเดินทางไปคามิโคจิจากมัตสึโมโต้ คือจะต้องนั่งรถไฟสายคามิโคจิจากชานชาลาหมายเลข 7 สถานีมัตสึโมโต้ ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสที่ไปที่ราบสูงโนะริคุระ (Norikura Kogen) ลงรถที่ป้าย N-29 Norikura Tourist Info Center ใช้เวลาประมาณ 45 นาที (รวมค่าโดยสารรถไฟและรถบัสขาเดียวราคา 1,850 เยน)

 

Norikura-kogen-tourist-center 
ป้ายรถบัส N-29 Norikura Tourist Information Center

เปลี่ยนรถอีกครั้งที่ศูนย์นักท่องเที่ยวโนะริคุระเพื่อนั่งบัสต่อไปยังยอดเขาโนะริคุระ (ท่ารถบัสทาตามิไดระ) รถบัสนี้จะวิ่งไปบนถนนเอคโค่ไลน์ที่คดเคี้ยวไปมาเป็นเวลา 50 นาที ผ่านวิวภูเขาที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง (ราคาค่าโดยสารขาเดียว 1,650 เยน)

ดูตารางรถบัส Matsumoto – Norikura Kogen Tourist Info Center >
ดูตารางรถบัส Norikura Kogen Tourist Info Center – Mt. Norikura >

TIPS บริเวณที่ราบสูงโนะริคุระ (N-29 Norikura Kogen Tourist Center) มีกิจกรรมและธรรมชาติมากมายให้ดูและทำ ทั้งน้ำตก บึงสวยๆ เส้นทางขี่จักรยานและเส้นทางเดินป่า สำหรับใครที่ไม่อยากเดินทางต่อรถติดๆกัน สามารถแวะเที่ยวและค้างคืนที่นี่ก่อนก็ได้ 1 คืน

อ่านเพิ่มเติม
เดินป่าชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โนะริคุระ

 

การเดินทางไปโนะริคุระจากฝั่งกิฟุ (รถบัส Nouhi)

จากฝั่งทาคายามะ ขึ้นรถบัสที่ไปฮิรายุออนเซ็นแล้วลงรถที่ป้ายที่จอดรถโฮโนกิไดระ (H-32 Honoki Daira parking) ใช้เวลา 45 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถไปยอดเขาโนะริคุระ (ทาตามิไดระ) หลังจากนั่งรถอีก 45 นาทีก็จะถึงจุดหมาย (ค่าโดยสารขาเดียวราคา 2,520 เยน)

ดูตารางรถบัส Takayama – Mt. Norikura >

พาสรถบัสแนะนำ

พาส Alps Crossing Ticket (เส้นทาง Norikura)

พาสชนิดนี้สามารถใช้เดินทางระหว่างมัตสึโมโต้และทาคายามะ โดยแวะเที่ยวกลางทางที่ยอดเขาโนะริคุระได้ เป็นพาสประเภทเดินทางขาเดียว คือจากมัตสึโมโต้ไปทาคายามะ หรือจากทาคายามะไปมัตสึโมโต้เท่านั้น

สถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุม: มัตสึโมโต้ ที่ราบสูงโนะริคุระ ยอดเขาโนะริคุระ ทาคายามะ
ราคา: 5,000 เยน
รายละเอียดพาส >

พาส 2-Day Free Passport

พาสชนิดนี้สามารถใช้นั่งรถบัสเส้นทางที่กำหนดไว้แบบไม่จำกัดเที่ยวได้เป็นเวลา 2 วัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุม: มัตสึโมโต้ ที่ราบสูงโนะริคุระ ยอดเขาโนะริคุระ คามิโคจิ ชิราโฮเนะออนเซ็น
ราคา: 7,000 เยน (สำหรับแบบใช้งานได้ 3 วัน ราคา 8,500 เยน)
รายละเอียดพาส >

พาส 4-Day Alps WIDE Free Passport

พาสชนิดนี้สามารถใช้นั่งรถบัสเส้นทางที่กำหนดไว้แบบไม่จำกัดเที่ยวได้เป็นเวลา 4 วัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุม: มัตสึโมโต้ โนะริคุระ คามิโคจิ ชิราโฮเนะออนเซ็น ทาคายามะ ชิราคาว่าโกะ ชินโฮทากะโรปเวย์ เกะโระออนเซ็น และอื่นๆ
ราคา: 11,000 เยน (แบบที่รวมตั๋วขึ้นลงโรปเวย์ด้วยราคา 13,000 เยน)
รายละเอียดพาส >

 

 

 
MENU