บล็อกพาเที่ยว
จุดเช็คอินชมใบไม้เปลี่ยนสี 9 แห่งในนากาโนะ
ไม่ต้องไปหาอ่านเพิ่มที่ไหน คัดสรรมาให้แล้วกับจุดเช็คอินชมใบไม้เปลี่ยนสีในนากาโนะ 9 แห่ง พร้อมการเดินทางโดยละเอียด!
ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)
ไม่เพียงแต่ปราสาทมัตสึโมโต้เท่านั้นที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ รอบๆปราสาทเช่น ถนนนากามาจิ (Nakamachi) ถนนนาวาเตะ (Nawate) และศาลเจ้าโยะฮาชิระ (Yohashira) ก็มีจุดให้ชมใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน บรรยากาศเย็นๆสิบกว่าองศา เหมาะสำหรับการซื้อของกินเดินเล่นในเมืองเป็นที่สุด
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Matsumoto เดินไปใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถบัส Town Sneaker สาย North ซึ่งจะออกเดินทางทุกๆ 30 นาทีในวันธรรมดาและทุกๆ 20 นาทีในวันเสาร์-อาทิตย์
ดูแผนที่ Google Map >
ตารางรถบัสชินจูกุ – มัตสึโมโต้ >
ตารางรถบัสทาคายามะ – มัตสึโมโต้ >
ดูตารางรถบัสไปมัตสึโมโต้ทั้งหมด >
ดูตารางรถบัส Town Sneaker >
คามิโคจิ (Kamikochi)
หากใครที่นึกไปว่าใบไม้เปลี่ยนสีจะต้องเปลี่ยนเป็นสีแดงเท่านั้น อาจจะแปลกใจว่าทำไมที่คามิโคจิถึงไม่มีใบไม้สีแดงเลย เหตุผลก็เพราะว่าในคามิโคจินั้นมีต้นเมเปิ้ลน้อยมาก ต้นไม้ที่เปลี่ยนจะเปลี่ยนสีใคามิโคจิก็คือต้นคารามัตสึ (Karamatsu) ที่เรียงรายอยู่ตลอดแนวแม่น้ำอะซุสะ (Azusa) พอถึงช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสีก็จะกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงามเป็นที่สุด
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: กลาง-ต้นเดือนพฤศจิกายน
วิธีการเดินทาง: สามารถเช็ควิธีการเดินทางไปคามิโคจิอย่างละเอียดได้ที่บทความ (อัพเดตปี 2022) คู่มือแนะนำเที่ยวคามิโคจิฉบับเต็ม (เที่ยวเมื่อไหร่ เดินทางยังไง เปิดปิดเมื่อไหร่ เดินเที่ยวยังไง)
ดูแผนที่ Google Map >
ดูตารางรถบัสไปคามิโคจิทั้งหมด >
อ่านเพิ่มเติม:
คู่มือแนะนำเที่ยวคามิโคจิ (เที่ยวเมื่อไหร่ เดินทางยังไง เดินเที่ยวยังไง)
7 จุดไฮไลต์ที่ต้องแวะในคามิโคจิ
ภูเขาโนริคุระ (Mt. Norikura)
ภูเขาโนริคุระ (Mt. Norikura) เป็น 1 ในยอดเขาของเทือกเขาเจแปนแอลป์ มีความสูง 3,026 เมตร ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งเขตจังหวัดนากาโนะและกิฟุ สามารถเดินทางไปได้จากทั้ง 2 จังหวัด แต่ถ้าพูดถึงใบไม้เปลี่ยนสีแล้วล่ะก็ ดูเหมือนว่าการเดินทางจากฝั่งจังหวัดนากาโนะจะเป็นที่นิยมมากกว่า ไฮไลท์ก็คือถนนโนริคุระเอคโค่ไลน์ (Norikura Echo Line) จากฝั่งนากาโนะ ที่มีความคดเคี้ยวไปมา ไม่ว่าจะเลี้ยวไปตรงไหนก็มีใบไม้สีแดงส้มเหลืองให้ชม
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม
วิธีการเดินทาง: การเดินทางไปโนะริคุระก็คล้ายๆกับการเดินทางไปคามิโคจิจากมัตสึโมโต้ คือจะต้องนั่งรถไฟสายคามิโคจิจากชานชาลาหมายเลข 7 สถานีมัตสึโมโต้ ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสที่ไปที่ราบสูงโนะริคุระ (Norikura Kogen) ลงรถที่ป้าย N-29 Norikura Tourist Info Center ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เปลี่ยนรถอีกครั้งที่ศูนย์นักท่องเที่ยวโนะริคุระเพื่อนั่งบัสต่อไปยังยอดเขาโนะริคุระ (ท่ารถบัสทาตามิไดระ) รถบัสนี้จะวิ่งไปบนถนนโนริคุระเอคโค่ไลน์ที่คดเคี้ยวไปมาเป็นเวลา 50 นาที ผ่านวิวภูเขาที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง
ดูตารางรถบัส Matsumoto – Norikura Kogen Tourist Info Center >
ดูตารางรถบัส Norikura Kogen Tourist Info Center – Mt. Norikura >
ส่วนการเดินทางจากจังหวัดกิฟุ ให้ขึ้นรถบัสที่ไปฮิรายุออนเซ็นแล้วลงรถที่ป้ายที่จอดรถโฮโนกิไดระ (H-32 Honoki Daira parking) ใช้เวลา 45 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถไปยอดเขาโนะริคุระ (ทาตามิไดระ) หลังจากนั่งรถอีก 45 นาทีก็จะถึงจุดหมาย
ดูตารางรถบัส Takayama – Mt. Norikura >
ดูแผนที่ Google Map >
ดูตารางรถบัสไปโนริคุระทั้งหมด >
อ่านเพิ่มเติม: เดินป่าชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โนะริคุระ
อิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท (Iwatake Mountain Resort)
อิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท (Iwatake Mountain Resort) สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ ซึ่งเพิ่งเริ่มบูมไม่กี่ปีมานี้ นอกจากวิวสวยๆของเทือกเขาฮาคุบะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเจแปนแอลป์แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมาย เช่น ขี่เครื่องเล่น luge เล่นแทรมโบลีน ขี่ม้า ขี่จักรยานMTB เป็นต้น แต่กิจกรรมที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ นั่ง Yoo Hoo Swing! ชิงช้าที่วิวสวยที่สุดในจังหวัดนากาโนะ
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: กลาง-ปลายเดือนตุลาคม
วิธีการเดินทาง: วิธีการเดินทางที่สะดวกสุดคือเริ่มต้นจากสถานี JR Nagano นั่งรถบัสสาย Nagano-Hakuba ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึงอิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท ส่วนใครที่เดินทางจากสถานี JR Hakuba และท่ารถบัสฮาคุบะฮัปโป (Hakuba Happo Bus Terminal) ก็สามารถนั่งรถบัสสาย Hakuba – Tsugaike ไปได้ ลงที่ป้าย Hakuba Iwatake Mountain Resort ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือถ้าเดินทางหลายคนจะเรียกแท็กซี่ไปก็ได้
วัดเซซุยจิ (Seisui-ji Temple)
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณช่วง 20 พฤศจิกายน
วิธีการเดินทาง: วัดนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง จากป้ายรถบัสเบอร์ 4 หน้าสถานีนากาโนะ สามารถนั่งรถบัส Nagaden สาย 45 (保科温泉行き) ไปลงที่ป้าย Seisui-ji Daimon (清水寺大門) ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นก็เดินต่ออีก 5 นาทีก็ถึงวัด รอบๆวัดไม่มีร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อเลย เพราะฉะนั้นต้องดูตารางรถบัสดีๆด้วย
อุทยานธรรมชาติสึกาอิเคะ (Tsugaike Nature Garden)
อุทยานธรรมชาติสึกาอิเคะ (Tsugaike Nature Garden) ตั้งอยู่ในเมืองฮาคุบะ บนความสูงประมาณ 1,900 สามารถนั่งโรปเวย์ขึ้นไปได้ไม่ยาก ดาวเด่นของที่นี่ก็คือจุดชมวิว “ฮาคุบะไดเซ็กเค” หุบเขาหิมะที่ใหมญ่ที่สุด 1 ในสามของญี่ปุ่น อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร เดินครบ 1 รอบใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง กว่า 80% ของทางเดินขึ้นเขาเป็นทางเดินทำด้วยไม้ เดินไม่ยาก เด็กโตและผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงก็สามารถเดินได้
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณปลายกันยายน-กลางเดือนตุลาคม
วิธีการเดินทาง: เช่นเดียวกับกับการเดินทางไปอิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท วิธีการเดินทางที่สะดวกสุดคือเริ่มต้นจากสถานี JR Nagano นั่งรถบัสสาย Nagano-Hakuba ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึงอุทยานธรรมชาติสึกาอิเคะ ส่วนใครที่เดินทางจากสถานี JR Hakuba และท่ารถบัสฮาคุบะฮัปโป (Hakuba Happo Bus Terminal) ก็สามารถนั่งรถบัสสาย Hakuba – Tsugaike ไปได้ ลงที่ป้าย Tsugaike Kogen ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือถ้าเดินทางหลายคนจะเรียกแท็กซี่ไปก็ได้
ดูแผนที่ Google Map >
ดูตารางรถบัสไปฮาคุบะทั้งหมด >
อ่านเพิ่มเติม: บันทึกการเดินทางตามล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ “สึกาอิเคะ”
บึงคุโมะบะ (Kumoba Pond)
บึงคุโมะบะ (Kumoba Pond) เป็นจุดเช็คอินสุดฮิตแห่งหนึ่งในเมืองคารุยซาวะ ช่วงพีคของฤดูใบไม้ร่วงของที่นี่ ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงสะท้อนลงบนบึงคุโมะบะเป็นภาพที่สวยงามมาก บึงคุโมะบะเป็นบึงขนาดไม่ใหม่ เดินแค่ 10-20 นาทีก็ครบรอบแล้ว
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Karuizawa ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที หรือไม่จะเช่ารถจักรยานขี่ไปก็ได้เช่นกัน
ชิราโฮเนะออนเซ็น (Shirahone Onsen)
ชิราโฮเนะออนเซ็น (Shirahone Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่ขนาดเล็กๆในหุบเขาลึก ไม่มีร้านสะดวกซื้อแม้แต่ร้านเดียวนอกจากร้านขายของฝากเพียงแห่งเดียว จุดเด่นของออนเซ็นแห่งนี้คือ ธรรมชาติที่สวยงามเงียบสงบและออนเซ็นน้ำนมสีฟ้าขาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อออนเซ็น ซึ่งมีความหมายว่า “ออนเซ็นกระดูกขาว”
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนตุลาคม
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสายคามิโคจิจากชานชาลาหมายเลข 7 สถานีมัตสึโมโต้ ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสต่อไปใช้เวลาอีก 40 นาที ไปลงที่ท่ารถบัสสะวันโดะ (Sawando Bus Terminal) ต่อรถไปชิราโอเนะออนเซ็นอีกครั้ง นั่งรถใช้เวลา 20 นาทีก็ถึง ส่วนใครที่เดินทางจากคามิโคจิ โนริคุระหรือทาคายามะก็ให้มาต่อรถที่ท่ารถบัสสะวันโดะ
ดูแผนที่ Google Map >
ดูตารางรถบัสไปจากมัตสึโมโต้ไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
ดูตารางรถบัสไปจากคามิโคจิไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
ดูตารางรถบัสไปจากโนริคุระไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็ง (Norikura Kogen)
ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็ง (Norikura Kogen) เป็นสถานที่ที่ใครถ้าชอบความสโลว์ไลฟ์ ไม่ต้องทำอะไร ชมธรรมชาติชิลล์ๆ ชอบเดินทาง พบปะ พูดคุยทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ก็น่าจะชอบที่นี่ เพราะที่พัก 90% เป็นเกสต์เฮ้าส์และเพ็นชั่นเล็กๆที่ทำกันเองในครอบครัว บางแห่งมีออนเซ็นให้แช่ในตัวด้วย ตอนกลางวันชมใบไม้เปลี่ยนสี ตอนเย็นก็มีกิจกรรมดินเนอร์ในโดมใส ชมดาวกลางทุ่งด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้สงวนไว้ให้กับนักท่องเที่ยวที่พักในละแวดที่ราบสูงโนริคุระโคเก็งเท่านั้น
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนตุลาคม
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสายคามิโคจิจากชานชาลาหมายเลข 7 สถานีมัตสึโมโต้ ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ ใช้เวลา 30 นาที หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสต่อไปใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมงไปลงที่ที่ราบสูงโนะริคุระ (Norikura Kogen) ลงรถที่ป้าย N-29 Norikura Tourist Info Center (หรือป้ายที่ใกล้ที่พักท่านที่สุด)
ดูแผนที่ Google Map >
ดูตารางรถบัสไปจากมัตสึโมโต้ไปชิราโฮเนะออนเซ็น >
ดูตารางรถบัสไปโนริคุระทั้งหมด >