norikura-snow-walls (2)
norikura-snow-walls (2)

“กำแพงหิมะ” ไม่ได้มีที่ทาเตยามะอัลไพน์รูทที่เดียว!

 

หากพูดคำว่า “กำแพงหิมะ” เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงเจแปนแอลป์หรือเส้นทางทาเตยามะอัลไพน์รูท แต่ความจริงแล้วที่ญี่ปุ่นนั้นยังมีกำแพงหิมะอีกหลายแห่ง และบทความนี้จะแนะนำกำแพงหิมะของจังหวัดนากาโนะคือกำแพงหิมะที่โนริคุระ

norikura-snow-walls (2)

กำแพงหิมะโนริคุระตั้งอยู่ข้างล่างต่ำลงมาจากยอดเขาโนริคุระ (ทาตามิไดระ) เพียงนิดเดียว ซึ่งยอดเขาโนริคุระนี้สามารถเดินทางขึ้นไปด้วยรถบัส ทั้งจากฝั่งจ.กิฟุและจังหวัดนากาโนะ โดยถนนเส้นนี้จะปิดไม่ให้ผ่านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปเนื่องจากปริมาณหิมะที่ตกหนาแน่น และจะเปิดให้รถบัสวิ่งขึ้นไปอีกครั้งจากฝั่งจ.กิฟุตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.เป็นต้นไป

เนื่องจากปริมาณหิมะฝั่งนากาโนะที่ตกสะสมมากกว่าฝั่งกิฟุ การเดินทางจากฝั่งนากาโนะนั้นจึงมีความพิเศษกว่าฝั่งกิฟุ เพราะตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไปจนถึง 30 มิถุนายน สามารถนั่งรถบัส“ฮารุยามะบัส” (Haruyama Bus) ไปชมกำแพงหิมะได้ด้วย เนื่องจากปริมาณหิมะฝั่งนากาโนะที่ตกสะสมมากกว่าฝั่งกิฟุ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในโนริคุระ

วิธีการเดินทางไปชมกำแพงหิมะโนริคุระ

1. นั่งรถไฟอัลปิโก้ (Kamikochi Line) จากสถานี Matsumoto มาลงปลายทางที่สถานี Shin-shimashima (30 นาที)
2. เปลี่ยนมาขึ้นรถบัสที่ไปโนริคุระ (Norikura Kogen) และลงที่ป้าย N-29 Norikura Kogen Tourist Information Center (45 นาที)
3. จากป้าย N-29 Norikura Kogen Tourist Information Center เปลี่ยนมาต่อรถบัสเที่ยวชมกำแพงหิมะ “ฮารุยามะบัส” และลงที่ป้ายรถบัสสุดท้าย (40 นาที)

ดูตารางเวลารถบัสทั้งหมด

ตั๋วรวมรถไฟและรถบัสจากมัตสึโมโต้จนถึงป้าย N-29 Norikura Kogen Tourist Information Center สามารถซื้อได้จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัตที่สถานีมัตสึโมโต้ (ไป-กลับ 3,300 เยน) ส่วนตั๋วรถบัสฮารุยามะ สามารถซื้อตั๋วจากพนักงานขณะที่ต่อแถวรอขึ้นรถบัสได้เลย (ไปกลับ 2,500 เยน) รายละเอียดพาสรถบัสที่สามารถใช้ขึ้นรถบัสชมกำแพงหิมะได้ อยู่ที่ด้านล่างของบทความ

 
norikura-snow-walls (3)-1
รถบัสชมกำแพงหิมะ “ฮารุยามะบัส” กำลังรอออกเดินทางจากป้าย N-29 Norikura Kogen Tourist Center

ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไป

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมกำแพงหิมะโนริคุระคำตอบแบบสั้นๆ: ปลายเดือนพฤษภาคม

คำตอบแบบยาวๆ: ตั้งแต่ประมาณวันที่ 27 เม.ย. จนถึง 30 มิ.ย. รถบัสฮารุยามะบัสจะพาคุณชมกำแพงหิมะ โดยแบ่งการให้บริการเป็น 2 ช่วงคือ

1. ช่วงปลายเม.ย. – ปลายพ.ค. รถบัสจะวิ่งไปถึงป้าย N-38 Kuraigahara Sanso (ความสูง 2,350 ม.)
2. ช่วงปลายพ.ค. – 30 มิ.ย. รถบัสจะวิ่งไปถึงป้าย N-40 Daisekkei / Path to Katanokoya (ความสูง 2,600 ม.)

เนื่องจากกำแพงหิมะส่วนที่สูงที่สุดอยู่ก่อนถึงป้าย N-40 Daisekkei / Path to Katanokoya เล็กน้อย ปลายเดือนพ.ค.ที่รถบัสวิ่งไปถึงป้าย N-40 แล้วจึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมกำแพงหิมะ หลังจากกลางมิ.ย.เป็นต้นไป มุมของพระอาทิตย์จะทำมุมสูงขึ้น ทำให้หิมะละลายเร็วขึ้น

วิธีการชมกำแพงหิมะ

ตั้งแต่ช่วงปลายเมษายน - ปลายพฤษภาคม

รถบัสจะวิ่งไปถึงแค่ป้าย N-38 Kuraigahara Sanso แนะนำให้ลงรถบัสสุดทางที่ป้ายนี้แล้วเดินย้อนขึ้นเนินไปตามถนนประมาณ 10 นาที จะมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาทาเตชินะ (Mt. Tateshina) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขายาสึกาเกะ (Yatsugatake) ภูเขาแห่งนี้มีรูปร่างเป็นรูปโคนคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ จึงมีชื่อเรียกเล่นๆว่า “ภูเขาไฟฟูจิแห่งสุวะ” นอกจากนี้ยังถูกนับรวมอยู่ในหนังสือ “100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น”

 
norikura-snow-walls (4)-1 norikura-snow-walls (5)

แค่วิวข้างทางจากหน้าต่างรถบัสก็สวยลืมหายใจแล้ว

norikura-snow-walls (6)

จุดพักและร้านค้าข้างๆป้ายรถบัส N-38 Kuraigahara Sanso
 
norikura-snow-walls (7)
กำแพงหิมะเงียบสงบ ไร้ซึ่งเงาของผู้คน
 
norikura-snow-walls (8)
มองเห็นภูเขาทาเตชินะกันรึหรือเปล่าน้า

หลังจากนั้น จะเดินขึ้นต่อไปอีกหน่อยก็ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินหรือเดินมากไม่ได้ สามารถเดินกลับลงมาที่ป้ายรถบัส และสั่งอะไรร้อนๆจากร้าน Kuraigahara Sanso มาอบอุ่นร่างกายระหว่างรถบัสขากลับก็ได้

norikura-snow-walls (9) norikura-snow-walls (10)

อุด้ง/โซบะ (800 เยน), ข้างแกงกะหรี่ (800 เยน), โอเด้ง (600 เยน), เครื่องดื่มร้อนต่างๆ (400 เยน) เป็นต้น ถ้าใครสนใจก็สามารถค้างแรมที่นี่ได้ด้วย

Tips! อย่าลืมดูและวางแผนเวลารถบัสขากลับด้วย เพราะเที่ยวรถบัสมีน้อย

ตั้งแต่ช่วงปลายพฤษภาคม - ปลายมิถุนายน

จากป้ายรถบัสสุดท้าย N-40 Daisekkei / Path to Katanokoya เดินย้อนลงไปตามถนนเพียง 5 นาทีก็จะถึงจุดที่หิมะสูงที่สุดอยู่ที่ทางเลี้ยวโค้ง

norikura-snow-walls (11)
ป้ายรถบัสสุดท้าย N-40 Daisekkei / Path to Katanokoya

ในรูปข้างบนจะเห็นว่ามีรถบนต์จอดอยู่คันหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วเป็นรถยนต์ของผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จึงมีการห้ามไม่ให้รถยนต์ส่วนตัวผ่านขึ้นไปเกินกว่าป้ายรถบัส N-35 Sanbondaki หากต้องการชมกำแพงหิมะโนริคุระจะต้องเดินทางด้วยรถบัสสาธารณะเท่านั้น

norikura-snow-walls (2)

จุดที่กำแพงหิมะสูงที่สุด
 
norikura-snow-walls (12)

ความสูงของกำแพงหิมะในแต่ละปีขึ้นอยู่กับปริมาณหิมะที่ตกสะสม สถิติความสูงสูงสุดของกำแพงหิมะที่โนริคุระอยู่ที่ประมาณ 12 เมตร ซึ่งถ้าเอาเปรียบไปกำแพงหิมะที่ทาเตยามะแล้วก็คงเทียบกันไม่ได้ แต่ข้อดีของกำแพงหิมะโนริคุระคือ มีนักท่องเที่ยวน้อย ไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดเพื่อขึ้นลงต่อพาหนะต่างๆ ถือว่าการเดินทางค่อนข้างสะดวกกว่ามาก

norikura-snow-walls (13)
ในวันที่วันใส แดดออก แค่ได้เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว

หลักจากถ่ายรูป ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์แล้ว จะเดินกลับไปที่ป้ายเพื่อรอรถบัสกลับลงไปก็ได้ สำหรับคนที่ชอบเดิน สามารถเลือกที่จะเดินลงเนินกลับไปตามถนนจนถึงป้าย N-38 Kuraigahara Sanso เพื่อขึ้นรถบัสกลับลงไปจากป้ายรถบัสนี้ก็ได้ ระหว่างที่เดินลงไปมีวิวสวยงามมากมายให้ชม ทั้งภูเขายาเกะดาเกะ (Mt. Yake) ที่มียอดหยักๆ และภูเขายาริ (Mt. Yari) ที่มียอดพุ่งขึ้นสูงเหมือนกับยอดเขาแมตเตอร์ฮอร์นของสวิตเซอร์แลนด์

norikura-snow-walls (14)

วิวข้างทางล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงๆต่ำๆขาวโพลน

ระยะทางระหว่างรถบัสป้าย N-40 จนถึงป้าย N-38 ห่างกันประมาณ 3.5 กม. ถึงแม้ว่าจะเป็นการเดินลงเขาไปตามถนนซึ่งไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ แต่ขอแนะนำให้ใส่รองเท้าที่เดินสบายและทะมัดทะแมงนะคะ ส่วนเสื้อผ้า ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่การชมกำแพงหิมะนั้นต้องเดินทางขึ้นไปบนเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,600 ม. ซึ่งอุณหภูมิสามารถลดต่ำไปแตะเลขตัวเดียวได้แล้วแต่สภาพอากาศ อย่าลืมที่จะเตรียมเสื้อกันลมกันหนาวไปด้วยนะคะ

norikura-snow-walls (15)
ดาวเด่นของโนริคุระ “นกสายฟ้า” (Raicho)

ขณะที่เที่ยวชมธรรมชาติอย่างเพลินเพลินในแถบเทือกเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือ คุณอาจจะได้พบเจอกับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ เช่น “เจ้านกสายฟ้า” (rock ptarmigan) หรือในภาษาญี่ปุ่น “ไรโจ” ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า “นกสายฟ้า” มีการประมาณการณ์ไว้ว่าในแถบภูเขาโนริคุระนั้น มีนกชนิดนี้เหลืออยู่เพียงประมาณ 100 ตัวเท่านั้น เป็นสายพันธุ์ที่จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติพิเศษอีกด้วย ขณะที่เดินเล่นก็ลองมองไปที่ก้อนหินหรือต้นสนบ้าง ไม่แน่อาจจะเจอกับดาวเด่นประจำภูเขาโนริคุระแห่งนี้ก็ได้

norikura-snow-walls (16)

ทิวทัศน์ข้างทางที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดระหว่างทางขากลับที่คดเคี้ยวไปมา หากไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ แนะนำให้เตรียมกล้องหรือมือถือไว้ในมือเลย

 

เหล่านักสกีและสโนว์บอร์ดเดอร์ที่หลงใหลในการเล่นสกีนอกฤดูกาล

นอกจากการชมกำแพงหิมะแล้ว กิจกรรมหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากๆของคนในท้องถิ่นก็คือ “การเล่นสกีนอกฤดูกาล” ปกติแล้วเราจะนั่งลิฟต์หรือกอนโดล่าขึ้นไปแล้วไถลสกีลงมา แต่ที่นี่แม้ในฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูร้อนก็ยังสามารถเล่นสกีได้ โดยแบกสกีหรือบอร์ดของตัวเองปีขึ้นไปบนยอดเองแล้วไถลลงมาเอง สำหรับใครที่อยากลองก็ไม่ว่ากัน !

หมายเหตุ: ถนนจากป้าย N-40 Daisekkei/Path to Katanokoya ไปจนถึงยอดเขาโนริคุระ(ทาตามิไดระ) จะปิดไม่ให้ผ่านไปจนถึง 30 มิ.ย. และจะเริ่มเปิดถนนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป (ดูตารางรถบัส)

แนะนำพาสรถบัส

นอกจากกำแพงแล้ว ในแถบนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามน่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งเกือบทั้งหมดจะต้องเดินทางด้วยรถบัส ซึ่งการซื้อตั๋วทุกครั้งที่ต้องต่อรถนั้นไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ การซื้อพาสรถบัสใช้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่นอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้วยังประหยัดเวลาได้อีกด้วย ซึ่งวิธีใช้ก็ง่ายๆเพียงยื่นให้คนขับดูตอนขึ้นรถเท่านั้น (ใช้ขึ้นรถบัสชมกำแพงหิมะก็ได้)

1. 2-Day Free Passport
ราคา: ผู้ใหญ่ 7,000 เยน
เวลาใช้งาน: 2 วันติดต่อกัน
สถานที่ท่องเที่ยว: โนริคุระ, คามิโคจิ, มัตสึโมโต้ และชิราโฮเนะออนเซ็น

2. 4-Day Alps WIDE Free Passport
ราคา: ผู้ใหญ่ 13,000 เยน(รวมตั๋วขึ้นลงชินโฮทากะโรปเวย์)
เวลาใช้งาน: 4 วันติดต่อกัน
สถานที่ท่องเที่ยว: โนริคุระ, คามิโคจิ, มัตสึโมโต้, ชิราโฮเนะออนเซ็น, ทาคายามะ, ชิราคาว่าโกะ, ชินโฮทากะโรปเวย์, เกโระออนเซ็น และฮิรายุออนเซ็น

 
MENU