จังหวัดนากาโนะตั้งอยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่น ไม่มีทางออกติดทะเล ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาสูงมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ของขึ้นชื่อของจังหวัดนากาโนะจะไม่มีอาหารทะเลอยู่ในลิสต์เลยสักอย่าง แต่กลับมีอาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่หาได้ตามป่าเขาเสียเป็นส่วนใหญ่

วันนี้เราจะแนะนำอาหารขึ้นชื่อ 5 อย่างที่สามารถหารับประทานได้ในแถบมัตสึโมโต้ บางอย่างอาจจะไม่คุ้นเคยและออกจะแปลกประหลาดไปหน่อย แต่ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว ลองดูสักหน่อยจะเป็นไง จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ !

โทจิโซบะ (Toji-soba)

ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยคงจะคุ้นเคยกับโซบะ อาหารขึ้นชื่อที่สุดของจังหวัดนากาโนะเป็นอย่างดี สำหรับคนที่ยังไม่เคยรับประทาน โซบะเป็นอาหารประเภทเส้นที่ทำจากเมล็ดโซบะ (ธัญพืชชนิดหนึ่ง) มักจะรับประทานกันแบบเย็นๆ โดยคีบเส้นจุ่มน้ำซอสที่ทำมาจากโชยุใส่ต้นหอมหั่น หัวไชเท้าบดและวาซาบิเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามที่มัตสึโมโต้จะมีโซบะชนิดหนึ่งที่แตกต่างจากโซบะทั่วๆไป มัตสึโมโต้เป็นเมืองที่อยู่ในแอ่งที่ราบห้อมล้อมด้วยภูเขาสูง เมื่อเข้าหน้าหนาว ถึงแม้ว่าปริมาณหิมะจะไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่อุณหภูมิกลับต่ำเรี่ยเลขศูนย์เป็นประจำ คนที่นี่จึงคิดวิธีการกินโซบะแบบหม้อร้อน คือเอาเส้นโซบะใส่ตะกร้อจุ่มในหม้อน้ำซุปที่อุ่นอยู่บนเตา ในน้ำซุปจะมีต้นหอม เห็ด ผักในท้องถิ่นและบางครั้งก็มีเนื้อไก่ด้วยแล้วแต่ร้าน ถึงแม้ว่าจะดูเป็นอาหารพื้นๆ ไม่น่าหวือหวาอะไร แต่บอกเลยว่ากลิ่นซุปนี่หอมมากๆ ยิ่งได้กินในฤดูหนาวยิ่งฟินไปอีก

ไก่ทอดซันโซะคุยากิ (Sanzoku-yaki)

ไก่ทอดซันโซะกุยากิเป็นไก่ทอดชนิดหนึ่งเป็นที่รู้จักกันในฐานะ Soul Food ของชาวเมืองมัตสึโมโต้ แตกต่างจากไก่ทอดคาราอาเกะ (Karaage) ญี่ปุ่นทั่วไป โดยก่อนจะเอาไปคลุกกับแป้งและทอดให้สุก จะต้องนำอกไก่หรือน่องไก่ไปหมักในโชยุและกระเทียมให้เข้าเนื้อก่อน

ชื่อไก่ทอดซันโซะกุแปลตรงตัวว่า “โจรป่าอบ” (ถึงแม้ว่าความจริงจะใช้ทอด ไม่ได้อบก็ตาม) ที่มาของชื่อไม่มีใครทราบแน่นอน แต่เล่ากันว่าเพราะโจรป่าขโมยสิ่งของ และคำว่า “ขโมย” ไปพ้องกับภาษาญี่ปุ่นคำว่า “ไก่ทอด” (toriageru) นั่นเอง

ความดังของไก่ทอดที่ว่าทำให้บริษัทมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบยี้ห้อดังต้องออกรสชาติไก่ทอดซันโซะกุยากิออกมา ซึ่งมีขายเฉพาะที่จังหวัดนากาโนะเท่านั้น นอกจากนี้เนื่องจากไก่ทอดเป็นอาหารกับแกล้มที่กินคู่กับเบียร์เย็นๆได้เป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าจะไปร้านอิซากายะที่ไหนในมัตสึโมโต้ก็ตาม แทบทุกร้านก็จะต้องมีเมนูนี้อยู่ด้วยเสมอ

โอยากิ (Oyaki)

ของว่างไซส์ขนาดกำปั้นนี้เป็นอาหารโปรดอีกชนิดของคนท้องถิ่น ทำด้วยแป้งจากเมล็ดโซบะ ยัดไส้ข้างในเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ผัก เนื้อสัตว์ ไปจนถึงถั่วแดงต้มหวาน และนำไปนาบกับกระทะให้ขึ้นเป็นรอยย่างไฟ ก่อนจะนำไปนึ่งหรือย่างต่อไป ในสมัยก่อนมักจะนำไปย่างบนเตาถ่านมากกว่า ซึ่งวิธีนี้ก็ยังพอเห็นบ้างบางแห่ง และถึงกับมี “หมู่บ้านโอยากิ” ที่ใช้เทคนิคการทำแบบโบราณทั้งหมด สามารถลองทำโอยากิเองได้ที่นี่ด้วย

ซาชิมิเนื้อม้า (Basashi)

ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ! อาหารพื้นเมืองอีกอย่างของมัตสึโมโต้คือซาชิมิเนื้อม้า (บะซะชิ) หรือบางครั้งก็เรียกว่า “ซากุระนิคุ” หรือ “เนื้อซากุระ” ซึ่งน่าจะมาจากสีของเนื้อที่ออกไปทางสีชมพูหน่อยๆด้วย ถือเป็นอาหารจานหรูอย่างหนึ่งของที่นี่เลยก็ได้ มีร้านอาหารบางแห่งที่เป็นร้านเฉพาะทางในการปรุงเนื้อม้า อย่างไรก็ตามก็สามารถหาทานได้ทั่วไปในร้านอิซากายะ

เนื้อสัมผัสของเนื้อม้าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละส่วนที่มา มีทั้งเนื้อส่วนที่นุ่มและส่วนที่เหนียวสู้ฟันเล็กน้อย และมักจะมีรสชาติไม่รุนแรงและมีความหวานเล็กน้อย ส่วนใหญ่มักจะเสิร์ฟดิบแบบซาชิมิที่มาพร้อมกับโชยุ วาซาบิ ขิงบดและต้นหอมหั่นฝอย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อาหารที่คนทั่วไปจะรับประทานกัน แต่ถ้าหากอยากเปิดประสบการณ์ในการดื่มกิน แนะนำให้ลองสั่งมารับประทานดูนะคะ

แมลงนานาชนิด (ดักแด้ของผึ้ง ตั๊กแตนยักษ์)

สำหรับเราชาวไทย นี่อาจจะเป็นเลเวลเบาะๆยิ่งกว่าเนื้อม้าเสียอีก อย่างไรก็ตามก็ทำให้เรารู้ว่า คนญี่ปุ่นก็กินแมลงเหมือนกับเรา อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าจังหวัดนากาโนะไม่มีทางออกติดทะเล และในอดีตก็ไม่ได้มีการทำปศุสัตว์เป็นเรื่องเป็นราวอย่างในปัจจุบัน ทำให้คนต้องหาโปรตีนและวิตามินจากแหล่งอาหารประเภทอื่น ซึ่งก็ได้แก่พวกแมลงที่มีอย่างมากมาย ส่วนมากก็จะเป็นดักแด้ของผึ้ง (Hachi no Ko) และตั๊กแตน (Inago)

ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูไม่ค่อยน่ารับประทาน แต่รสชาติก็ไม่ได้แย่เลยนะ นอกจากจะกรุบกรอบแล้วก็ยังมีรสชาติออกหวานๆ ไม่เพียงแต่ในร้านอาหาร แต่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ยังสามารถหาซื้อได้ด้วย

จบการแนะนำของกินที่แปลกบ้างไม่แปลกบ้างไปแล้ว ถ้าใครได้ผ่านมาเที่ยวมัตสึโมโต้ ก็อย่าลืมลองสั่งอาหารในลิสต์มาชิมดูนะคะ ถ้าไม่อร่อยถูกใจ อย่าว่ากันน้า...เพราะทุกสิ่งคือประสบการณ์ !

วิธีการเดินทางไปมัตสึโมโต้