โตเกียวทาวเวอร์ วัดน้ำใส ภูเขาไฟฟูจิ ยูนิเวอร์แซลเจแปน เรือโจรสลัดกับไข่ดำที่ฮาโกเนะ... ถ้าไปมาครบแล้ว คราวหน้าลองไปเที่ยวธรรมชาติและภูเขาที่เจแปนแอลป์มั๊ย?
เริ่มกันที่คำถามว่าเจแปนแอลป์ (Japanese Alps) คืออะไรและอยู่ที่ไหน เจแปนแอลป์เป็นเทือกเขาสำคัญทางตอนกลางของเกาะฮอนชู แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ (เทือกเขาฮิดะ) เทือกเขาแอลป์ตอนกลาง (เทือกเขาคิโสะ) และเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ (เทือกเขาอะกะอิชิ) รวมเรียกว่า “เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น” เรียกได้ว่าเป็นหลังคาของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ได้
เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือตั้งอยู่บนเส้นแบ่งเขตจังหวัดนากาโนะ กิฟุและโทยามะ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติจูบุซังกะคุ (Chubu Sangaku National Park) และยังเป็นที่ตั้งของยอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 3,000 เมตรกว่า 10 แห่งในจำนวนทั้งหมด 21 ยอดในเทือกเขาเจแปนแอลป์
เฉพาะในเทือกเขาเจแปลแอลป์ตอนเหนือยังสามารถแบ่งย่อยออกไปอีก 3 ส่วน ได้แก่ บริเวณยาริ/โฮทากะ บริเวณทาเตะยามะ/ฮาคุบะ/สึรุกิ และบริเวณอนทาเกะ/โนะริคุระ
บทความนี้เราขอเสนอสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติทั้ง 5 แห่ง ที่รับรองว่าใครไปก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ดังนี้ค่ะ
ไม่ต้องแนะนำมาก หลายคนก็คงรู้จักกันดีกับ “”คามิโคจิ” หุบเขาที่สวยราวกับภาพวาดแห่งนี้ แนะนำให้ทุกคนลงจากรถบัสที่ป้ายรถบัสบึงไทโช แล้วเดินชมธรรมชาติไปตามลำน้ำใสที่ไหลผ่านหุบเขา แวะชมบึงต่างๆ สะพานคัปปะ และถ้ามีกำลังและเวลาก็เดินไปให้ถึงบึงเมียวจินเลย อุทยานแสนสวยแห่งนี้เปิดให้เข้าไปเยือนได้ตั้งแต่ 17 เมษายน จนถึง 15 พฤศจิกายนของทุกปี
อ่านเพิ่มเติม:
1 วันกับทริปปีนภูเขาไฟยาเกะ (Mt. Yake)
สำหรับใครที่อยากจะพิชิตยอดเขาที่อยู่เหนือถัดขึ้นไปจากคามิโคจิ ก็มีหลายยอดให้ท้าทายพละกำลัง ทั้งภูเขายาริ (Yarigatake) และยอดต่างๆบนเทือกเขาโฮทากะ เช่น โอะคุ-โฮทากะ (Oku-Hotaka) มาเอะ-โฮทากะ (Mae-Hotaka) และคิตะ-โฮทากะ (Kita-Hotaka) ซึ่งยอดเขาเหล่าล้วนเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การปีนเขาเท่านั้น ใครที่ประสบการณ์ยังน้อยแนะนำให้ลองภูเขายาเกะ (Yaketake) หรือภูเขาโจกาทาเกะ (Chogatake) ไปก่อนค่ะ
นอกจากยอดเขาที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็ยังแนะนำ “คาราซาวะเซิร์ก” และ “ดาเกะซาวะเซิร์ก” สำหรับนักเดินเขามือใหม่ ถึงแม้ว่าจะไปแค่ครึ่งทางไม่ถึงยอด แต่รับรองว่าให้คะแนนวิวเต็มสิบเลย
อ่านเพิ่มเติม:
พาเดินเขาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คาราซาวะเซิร์ก
ฮาคุบะเป็นหนึ่งในลานสกีระดับโลกและเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เล่นสกีและสโนว์บอร์ดจากทั่วโลก น่าเสียดายที่ในฤดูอื่นๆไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเท่าไหร่ ทั้งๆที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางภูเขาสวยๆมากมาย หากคุณชอบคามิโคจิ รับรองว่าคุณก็จะชอบฮาคุบะด้วยเช่นกัน
บึงฮาคุบะฮัปโปเป็นหนึ่งสถานที่ที่แอดมินชอบมากที่สุดในฮาคุบะ บึงสวยงามแห่งนี้อยู่ระหว่างทางไปยอดเขาคารามัตสึ (Mt. Karamatsu) บนความสูง 2,060 เมตรเหนือน้ำทะเล หากสภาพอากาศเป็นใจ จะสามารถเห็นยอดเขาทั้งสามแห่งฮาคุบะ (Three Peaks of Hakuba) ได้บนผิวน้ำ (ภูเขาทั้งสามแห่งฮาคุบะที่ว่า ได้แก่ Mt. Shirouma Mt. Yakushi และ Mt.Shirouma-Yarigatake)
กอนโดล่าและสกีลิฟต์จะพาคุณไปยังความสูง 1,830 เมตรภายในเวลาไม่กี่นาที จากนั้นก็ได้เวลาเดินเท้าจากบ้านพักสำหรับนักปีนเขา “Hakuba-ike Sanso“ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงบังฮัปโปแล้ว
อ่านเพิ่มเติม:
เดินเขาเบาๆไปบึงฮัปโป (ใครชอบคามิโคจิ รับรองไม่ผิดหวัง)
วิวของทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเหลืองทองที่มีทางเดินไม้ทอดยาวออกไป และมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงแบบนี้ รับรองได้ว่าต้องเป็นทุ่งหญ้า Watasuge ที่อุทยานธรรมชาติสึกาอิเกะแน่นอน
ทางเดินชมธรรมชาติที่สึกาอิเกะสามารถเดินได้อย่างสบายๆ เหมาะสำหรับทุกคนที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยมีระยะทางทั้งหมด 5.5 กม. และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งในการเดินให้ครบ 1 รอบ จุดหมายของการเดินของหลายๆคน คือ การไปให้ถึงจุดชมหุบเขาไดเซ็กเค “Daisekkei” ซึ่งมีหิมะปกคลุมเกือบตลอดปี
อ่านเพิ่มเติม:
ขึ้นโรปเวย์เดินชมใบไม้เปลี่ยนที่อุทยานธรรมชาติสึกาอิเคะ
Hakuba Mountain Harbor หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในฮาคุบะ ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ บนหน้าผามีระเบียงชมวิวที่ยื่นออกไปหันหน้าไปทางภูเขา สามารถนั่งจิบกาแฟ รับประทานเบเกอรี่อร่อยๆพร้อมชมวิวไปพลางๆได้
นอกจากวิวที่สวยลืมหายใจ ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ทำอีกมากมายด้วย เช่น ขี่เมาเท่นไบค์ เดินป่า นั่งชิงช้า Yoo-hoo! Swing ขี่ mountain cart หรือ buggy cruise ก็มี
อ่านเพิ่มเติม:
มหัศจรรย์แดนหิมะ “Hakuba Iwatake Mountain Harbor”
ในฤดูร้อน ดอกไม้ทั้งอัลไพน์และไม่อัลไพน์ต่างพลัดกันบานอวดโฉมกันตั้งแต่เดือนมิ.ย. – ก.ย. และจะบานสะพรั่งพร้อมกันมากที่สุดราวกลางเดือนก.ค. ที่นี่สามารถชมดอกโคะมะคุซะ (Komakusa) สีชมพู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งดอกไม้อัลไพน์ได้ด้วยระหว่างเดือนมิ.ย. – ส.ค.
สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่สถานี Alps-daira ไปจนถึงสถานีลิฟต์ชั้นบนสุด จากตรงนั้นสามารถเดินเขาต่อไปภูเขา Kotomiyama (2,007 ม.) ได้ด้วย ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงไปกลับ
ถึงแม้โนริคุระจะไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากนัก แต่ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนในเจแปนแอลป์ตอนเหนือ คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนละฤดูใบไม้ร่วง นอกจากจะอยู่ไม่ไกลจากคามิโคจิเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที สามารถใช้พาสรถบัส 2-Day Free Passport เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดค่ารถบัส
ภูเขาโนริคุระ (Mt. Norikura) มียอดเขาสูงสุดที่ความสูง 3,026 ม. เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นภูเขาระดับความสูงเกิน 3,000 เมตรที่ปีนได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่ง ใช้เวลาปีนขึ้นลงเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากจะเดินทางสะดวกด้วยรถบัส ใกล้ๆกันยังมีทุ่งดอกไม้อัลไพน์และทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟให้ชมด้วย
ภูเขาแห่งนี้สามารถเดินทางไปได้ง่ายๆด้วยรถบัส Alpico และ Nohi ซึ่งจะพาคุณเดินทางไปจนถึงระดับความสูง 2,702 เมตร ภายในไม่อึดใจ เหลือความสูงเพียงอีกแต่ 300 เมตรให้พิชิตยอดเขา
วิวทิวทัศน์ตลอดทางบนถนนสาย Norikura Echoline จากที่ราบสูงโนริคุระ (โนริคุระโคเก็ง) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง เพราะฉะนั้นอย่าหลับระหว่างทางล่ะ!
อ่านเพิ่มเติม:
ครั้งแรกกับการปีนเขาระดับ 3,000 เมตรที่ภูเขาโนริคุระ ( Norikura)
เดินเขาชิลๆชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โนริคุระ
During the spring season from late April until the end of June, you can get on “Haruyama Bus”, a special bus that will bring you from Norikura Kogen to enjoy the towering snow walls near the summit of Mt. Norikura. Check out this video below!
Read also:
ที่ราบสูงโนริคุระ (Norikura Highlands หรือ Norikura Kogen) เป็นจุดที่ต้องมาต่อรถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังภูเขาโนะริคุระ ที่นี่มีน้ำตกและบึงสวยๆหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นธรรมชาติให้แช่ผ่อนคลายร่างกาย สามารถเช่าจักรยานไฟฟ้า เมาเท่นไบค์ ขี่ไปจุดชมวิวต่างๆได้ หรือถ้าใครอยากจะออกแรงขาเดินเทรกเองก็ได้
นักเที่ยวญี่ปุ่นหลายคนคงจะเคยมาเยือนเส้นทางทาเตยามะคุโรเบะอัลไพน์มาแล้วในฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมกำแพงหิมะ แต่รู้หรือไม่ว่าในฤดูอื่นๆ เส้นทางชมวิวความยาวกว่า 90 กม.ที่ผ่านพาดเทือกเขาเจแปนแอลป์นี้ก็สวยน่าเที่ยวไม่แพ้กันเลย
อ่านเพิ่มเติม:
ใครที่ชอบนั่งโรปเวย์ชมวิวสวยๆ ต้องที่นี่เลย! “ชินโฮทากะโรปเวย์” โรปเวย์ 2 ชั้นแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะพาทุกคนเดินทางจากความสูง 1,117 เมตร ไปจนถึง 2,159 เมตร เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาเจแปนแอลป์ตอนเหนือ ระหว่างทางที่ต้องต่อโรปเวย์ สามารถแวะแช่ออนเซ็นเท้า หรือถ้าอยากจะแช่ทั้งตัวก็มีให้แช่เหมือนกัน
นอกจากนี้ ที่สุดปลายทางสถานีโรปเวย์ Nishihotaka-guchi สามารถเดินเขาไป Mt. Nishihomaruyama (2,452 เมตร) หรือจะเดินทะลุไป Kamikochi (1,500 เมตร) ก็ได้นะ
สถานที่ที่แนะนำไปข้างต้นล้วนแต่อยู่ในเขตภูเขา รถไฟไม่สามารถเข้าถึงได้ จะต้องต่อรถบัสเข้าไป สามารถดูตารางรถบัสและวิธีการเดินทางได้ที่ด้านล่างเลย
การเดินทางไปคามิโคจิ จะต้องเดินทางด้วยรถบัสสาธารณะหรือแท็กซี่เท่านั้น ไม่สามารถเดินทางไปด้วยรถส่วนตัวได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางมามัตสึโมโต้หรือทาคายามะก่อนเพื่อต่อรถไฟและรถบัส หรือไม่ก็นั่งรถบัสตรงจากโตเกียวหรือโอซาก้าเลยก็ได้
ดูตารางรถบัสที่ไปคามิโคจิทั้งหมด >
ดูวิธีการเดินทางไปคามิโคจิอย่างละเอียด >
การเดินทางไปฮาคุบะด้วยรถบัสเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะมีเส้นทางหลากหลายทั้งจากโตเกียว โอซาก้า นากาโนะ และสนามบินฮาเนดะและนาริตะ ถ้าหากมี JR East Pass สามารถนั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานีนากาโนะแล้วต่อรถบัสไปฮาคุบะเลยก็ได้
เมืองมัตสึโมโต้เป็นเสมือนศูนย์กลางการเดินทางเชื่อมต่อเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวในแถบเจแปนแอลป์ตอนเหนือเข้าด้วยกัน สามารถเดินทางไปเมืองมัตสึโมโต้ได้ทั้งโดยรถไฟและรถบัส Alpico
เมืองนากาโนะเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการเดินทางในจังหวัดนากาโนะเช่นเดียวกับเมืองมัตสึโมโต้ รถไฟชินคันเซ็นสามารถไปได้ไกลที่สุดแค่สถานีนากาโนะ ถ้าหากจะเดินทางไปฮาคุบะ โทกากุชิหรือทาเตยามะคุโรเบะแล้ว จะต้องมาต่อรถบัสที่เมืองนากาโนะ
ดูตารางรถบัสที่ไปนากาโนะและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงทั้งหมด >
กรณีที่จะเดินทางไปที่ราบสูงโนริคุระ แนะนำให้เดินทางเข้ามาจากฝั่งจังหวัดนากาโนะผ่านสถานีชินชิมะชิมะจะสะดวกสบายกว่า แต่หากจะเดินทางไปภูเขาโนริคุระ สามารถเดินทางจากฝั่งนากาโนะ (ต่อรถที่ที่ราบสูงโนริคุระ Norikura Kogen) หรือกิฟุ (ต่อรถที่ Honoki-daira) ก็ได้
ดูตารางรถบัสที่ไปโนริคุระจากฝั่งจ.นากาโนะ >
ดูตารางรถบัสที่ไปโนริคุระจากฝั่งจ.กิฟุ >
เส้นทางทาเตยามะคุโรเบะ สามารถเดินทางได้จากทั้งฝั่งจ.นากาโนะและจ.โทยามะ ช่วงฤดูกาลปีนเขาจะมีรถบัสตรงจากทั้งโตเกียว โอซาก้าไปถึงสถานี Ogizawa ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแอลป์ทางฝั่งนากาโนะ นอกจากนี้ก็ยังมีรถบัสจากสถานีนากาโนะไปถึง Ogizawa ด้วยเช่นกัน
การเดินทางไปชินโฮทากะโรปเวย์สามารถเดินทางไปได้จากทั้งทาคายามะและมัตสึโมโต้ โดยจะต้องไปต่อรถ 1 ครั้งที่ฮิรายุออนเซ็น
ดูตารางรถบัสที่ไปชินโฮทากะจากมัตสึโมโต้ >
ดูตารางรถบัสที่ไปชินโฮทากะจากฝั่งจ.กิฟุ >